สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 19 พฤศจิกายน 2559
ปีพุทธศักราช 2560 เป็นช่วงเวลาที่น่าจับตามองเลยทีเดียว สำหรับวงการสมาร์ทโฟนที่ต้องบอกว่าในปีนี้เองมีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง โดยเด่นๆ คือการตัดพอร์ตเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลเมตร, มีคุณสมบัติกันนํ้ากันฝุ่นหลายรุ่นมากขึ้น, Ram ขนาด 6GB หรือเพิ่มระบบความปลอดภัยด้วยการสแกนม่านตา แม้แต่ระบบชาร์จเร็วอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ ทว่านอกจากจุดเด่นของสมาร์ทโฟนแล้วที่คาดว่าปีหน้าจะเห็นอย่างแพร่หลาย ยังมีอีกหนึ่งเรื่องราวของแบรนด์ในตำนาน Nokia ที่จะกลับคืนสู่สังเวียน หลังจากไม่เป็นตัวเองมาเนิ่นนาน เพราะฉะนั้นจึงขอหยิบยก 7 ประเด็นมาเล่าสู่กันฟังที่จะทำให้โนเกียกลับมาผงาดอีกครั้ง
ก่อนอื่นมาท้าวความก่อนในบทบาทระหว่าง HMD Global, Nokia, Foxconn เป็นอย่างไร?
เริ่มกลับมาคึกคักไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับแบรนด์ Nokia ที่ ณ ตอนนี้มีข่าวลือต่างๆ ออกมาตลอดก็เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่าในปีหน้าเจอกันแน่นอน ตามข่าวคราวที่ได้ยืนยันออกมา ซึ่งการกลับมาครั้งนี้อาจสับสนนิดหน่อย เพราะมีหลายชื่อเหลือเกิน ดังนั้นเราจะมาทำความเข้าใจมากขึ้น
1. Nokia : อนุญาตให้ใช้ชื่อเสียงเรียงนามทำการตลาด รวมถึงเทคโนโลยี สิทธิบัตร และก็ Know -How ทั้งหลายแก่บริษัท HMD Global ในการคิดค้นพัฒนาแอนดรอยด์โฟนรุ่นใหม่ภายใต้ชื่อโนเกีย ทั้งยังจะมีการทำงานร่วมกันอย่างสนิทหรือพูดง่ายๆ ว่ามีส่วนร่วมกับบริษัทดังกล่าว และก็ไม่ว่าจะเป็นสินค้าใดต้องผ่านความเห็นชอบจากโนเกียก่อน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีมาตรฐานที่สุด
2. HMD Global : เสมือนเป็นหัวเรือใหญ่ โดยจะเป็นการรวมกลุ่มของผู้ที่คุลกคลีการทำงานในวงการ หนึ่งในนั้นมีอดีตผู้บริหารของโนเกีย นามว่า Arto Nummela ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง Vice President ของ Microsoft ทำหน้าที่ดูแลกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์โมบายในทวีปเอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ก็เรียกได้ว่าประสบการณ์อัดแน่น รวมถึงนาย Florian Seiche ทำงานในสายการขายกับการตลาดของ Microsoft Mobile เช่นเดียวกับเคยดำรงตำแหน่งสูงๆ ของแบรนด์ระดับโลกมากมาย
ส่วนบริษัทก็จะจัดตั้งอยู่ในประเทศฟินแลนด์ เมืองเฮลซิงกิ ซึ่งตั้งอยู่ที่เดียวกับโนเกียทำให้ลดปัญหาการทำงานไปได้เยอะ สามารถประสานงานกันได้คล่องตัว
อย่างไรก็ตามมีสัมภาษณ์ว่า การร่วมงานกันครั้งนี้ระหว่าง โนเกียกับ HMD Global มีความตั้งใจจะยกระดับการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภค สร้างแบรนด์เติบโตระดับโลกอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความสวยงาม (delivering beautifully designed), คุณภาพสูง (high quality products) แก่ผู้คนทั่วโลก และจะลงทุนการตลาดอย่างเต็มที่เพื่อโปรโมทการกลับมาครั้งนี้ให้ยิ่งใหญ่ที่สุดในกรอบระยะเวลาเบื้องต้น 3 ปี
สรุปหน้าที่หัวเรือใหญ่ : ผลิตพัฒนาและจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟน, ฟีเจอร์โฟน, แท็บเล็ต ภายใต้ชื่อแบรนด์โนเกีย
3. Foxconn : มีบริษัทลูกที่ชื่อว่า FIH Mobile Limited ได้ลงนามซื้อกลุ่มธุรกิจฟีเจอร์โฟน ทั้งยังรวมถึงโรงงาน (manufacturing), การขาย (sales) และช่องทางจัดจำหน่าย (distribution) โดยจะถูกบริหารจัดการทั้งหมดภายใต้กฏเกณฑ์ของ FIH
เวลาต่อมา HMD Global และ Nokia ก็จรดปากกาเซ็นสัญญาการร่วมงานกรอบความร่วมมือของธุรกิจในการผลิตสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ส่งผลให้หัวเรือมีอำนาจควบคุมเต็มที่ (full operational control) ในการผลิต, ช่องทางจัดจำหน่าย, การตลาด, โรงงาน, supply chain, วิศวกรรม เรียกได้ว่าครบวงจรเลยทีเดียว
สรุปการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่าย : อุปกรณ์ก็พัฒนาโดย HMD Global, ตรวจงานด้วยข้อมาตรฐานจาก Nokia และผลิตโดย Foxconn
ภาพด้านล่างคือ แผนอธิบายการดำเนินงาน....
คำสัมภาษณ์ของ 3 หัวเรือใหญ่ที่มีความตั้งมั่นจะทำให้ Nokia กลับมาผงาดอีกครั้ง
Arto Nummela, CEO of HMD global : เราจะโฟกัสกับการกลับมาลุยตลาดครั้งนี้ และก็สร้างธุรกิจอย่างครบวงจรให้เกี่ยวข้องกับโทรศัพท์และแท็บเล็ต ให้สอดคล้องสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ทั้งแบรนด์เองเราจะยังคงดำเนินแผนธุรกิจไว้ซึ่งเอกลักษณ์ และเรายังมีประสบการณ์ (Extensive experience) ในด้านการขาย การตลาด รวมถึงได้ทำงานร่วมงานผู้ผลิตกับผู้ให้บริการจัดจำหน่ายระดับโลก
Ramzi Haidamus, president of Nokia Technologies : เป็นจุดเริ่มต้นที่ตื่นเต้นเหลือเกินกับ New Chapter โดย HMD มีแผนผลิตโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตให้แบรนด์โนเกียสามารถกลับมาเติบโตกลายเป็นแบรนด์ระดับโลก ทั้งยังได้ทำงานร่วมกับ HMD และ FIH จะส่งผลให้เราเรียนรู้รวมถึงได้อยู่ร่วมในพื้นที่ของตลาดอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่
Vincent Tong, Chairman of FIH : กล่าวเสริมว่าเรากำลังมองไปถึงโอกาสข้างหน้าสำหรับการร่วมมือระยะยาวกับ HMD และ Nokia เรามีความประทับใจอย่างมากในประสบการณ์รวมถึงความชำนาญ และเราจะสนับสนุนพวกเขาด้วยกระบวนการผลิต เช่นเดียวกับ Supply chain ก็เพื่อเสริมโอกาสทางตลาดต่อไปภายในอนาคต
ใช้ระบบปฏิบัติการอะไรในการขับเคลื่อน
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า Nokia จะไม่มีระบบปฏิบัติการที่คิดค้นขึ้นมาเอง แต่เลือกใช้แอนดรอยด์ในการขับเคลื่อนสมาร์ทโฟน โดยคาดว่าน่าจะเป็นเวอร์ชั่น 7.0 เลย ทว่าในเรื่องส่วนติดต่อผู้ใช้งานหรือ UI คงต้องติดตามกันต่อไป หรืออาจพัฒนาต่อยอดตัวเดิม Z Launcher ที่เคยเปิดตัวมา
7 ปัจจัยที่จะทำให้ Nokia กลับมาผงาดในปีคริสต์ศักราช 2017 คืออะไร
1. ถึงแม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงแต่เป็นส่วนเสริมจากความเชี่ยวชาญ : อย่างที่ทราบกันว่า Nokia กับ Alcatel-Lucent ควบรวมกิจการ ต่างมุ่งหวังเป็นผู้นำบริการแห่งอุปกรณ์สื่อสาร นอกจากนี้ยังมีบริษัทวิจัยการสื่อสารระดับโลก Bell Laboratories ที่เป็นบริษัทลูกในกำมือมาพร้อมสิทธิบัตรกว่า 29,000 ใบ
2. ความสำคัญด้านสุขภาพกลไกตลาดยุคใหม่ : คงปฏิเสธไม่ได้ว่ากลุ่มตลาดสุขภาพมีเซกชั่นที่ใหญ่มาก ไม่เฉพาะเรื่องราวของอาหารเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงอุปกรณ์สมาร์ททั้งหลายที่จะมีส่วนช่วยให้ผู้ใช้งานวิเคราะห์ร่างกายตนเองดียิ่งขึ้น
โดย Nokia ก็เข้าซื้อกิจการสัญชาติฝรั่งเศส Withings เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปูทางเข้าสู่ตลาดอุปกรณืไอทีเพื่อสุขภาพรวมถึงโพสิชั่นของโลก Internet of Things นี่ก็ถือเป็นขุมกำลังอย่างหนึ่งเช่นกัน ต้องบอกว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ว่าจะนำมาผสมผสานการใช้งานอย่างไรกันกับสมาร์ทโฟนของโนเกีย
3. เป็นส่วนหนึ่งพัฒนาเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสาร 5G กับหน่วยงานระดับโลก : ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เจ้าเดียวในการพัฒนา เพราะก็ยังมีบริษัทระดับโลกมากมายที่แข่งขันกันทำต้นแบบตามประเทศใหญ่ๆ อยู่ แต่การเป็นส่วนหนึ่งในครั้งนี้ทำให้โนเกียได้เพิ่มการเป็นที่รู้จักแก่ทั่วโลก และยังไม่รวมถึง Know - How หรือประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้รับจากการลงมือทดลองพัฒนาในครั้งนี้
4. การทำงานร่วมกับ Microsoft : ปฏิเสธไม่ได้ว่าไมโครซอฟท์ ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจไอทีที่ประสบความสำเร็จระดับโลก ดังนั้นการทำงานร่วมกันจึงทำให้โนเกียได้รับประสบการณ์, วัฒนธรรมองค์กร, การบริหารจัดการ, การทำงานเป็นทีมรวมถึงรูปแบบการติดต่อสื่อสาร และการทำตลาดต่างๆ เสมือนเป็นการเรียนรู้
5. ทีมงานที่แข็งแกร่ง : อย่างที่เกริ่นข้างต้น กลับมาครั้งนี้ไม่ธรรมดา มีการวางแแผนกับร่วมมือกันกับบริษัทต่างๆ ที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้การดำเนินงานนั้นเป็นไปอย่างสมบูรณ์ ครบวงจรที่สุด ควบคุมและติดตามผลลัพธ์ได้ ทั้งยังตั้งเป้าไว้ว่าต้องการให้ Nokia กลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้งหนึ่ง
6. แอนดรอยด์ : ถ้าพูดถึงแอนดรอยด์ต้องบอกว่าเติบโตขึ้นอย่างมากเลยทีเดียวและสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างง่ายดาย บางทีด้วยความเป็นตำนาน ผู้ใช้ดีไวซ์แอนดรอยด์แบรนด์อื่นๆ อาจเปลี่ยนมาใช้งานสมาร์ทโฟนจากโนเกียก็เป็นได้ เพราะไม่มีอะไรต้องเรียนรู้สำหรับการใช้งานใหม่
7. เวลา : การที่เราจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งออกมาให้ได้สมบูรณ์แบบที่สุด ย่อมต้องใช้เวลานาน เพื่อคิดวิเคราะห์ สร้างปัญหาแล้วแก้โซลูชั่นต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีความเข้าใจและเรียนรู้ต่อสิ่งสิ่งนั้น เหมือนกับ Nokia ที่ตอนนี้พวกเขามีระยะเวลามาเนิ่นนาน อยู่ที่ว่าคราวนี้จะใช้เวลาเหล่านั้นที่มีอยู่ในกำมือ มาสร้างประโยชน์ต่อ The next Smartphone ได้มากน้อยแค่ไหน
สุดท้ายแบรนด์ Nokia จะเดินทางสู่เส้นทางใหม่เป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไปในปีหน้า เพราะที่สำคัญคงหนีไม่พ้นการสร้างความทับใจครั้งแรกให้กับลูกค้าได้ รวมถึงแรงดึงดูดต่างๆ บางทีหากยังมาหน้าตาดีไซน์แบบพิมพ์นิยมในสมัยนี้ ก็อาจมีขวางหนามเพิ่มเติมในก้าวต่อไปก็เป็นได้ ดังนั้นการที่โนเกียมีระยะเวลาและประสบการณ์ที่อยู่ในตลาดอุปกรณ์เคลื่อนที่มายาวนานต้องนำบทเรียนเหล่านั้นมาเป็นการบ้าน เพื่อฝ่าฟันบททดสอบต่อการแข่งขันที่รุนแรงเช่นนี้
ไม่ต้องรอนาน : คอนเฟิร์ม! Nokia จะเปิดตัวสมาร์ทโฟน ณ งาน Mobile World Congress 2017
หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติม http://company.nokia.com และ hmdglobal.com
เรื่องราวน่าสนใจต่างๆ ของแบรนด์ Nokia มีอะไรบ้าง...?
ทำนายเบอร์มือถือ เบอร์สวย เบอร์มงคล
รับซื้อมือถือ รับเครื่องถึงบ้าน
บูลอาเมอร์ ฟิล์มกระจกกันรอยมือถือ
วันที่ : 19 พฤศจิกายน 2559
ลือ! iPhone 17 อาจเป็นรุ่นแรกที่รองรับวิดีโอ 8K หลัง Android ทำได้นานแล้ว
HMD Arc มือถือระบบ Android 14 (Go edition) ดีไซน์สวย ทนทาน ทรงประสิทธิภาพ
รีวิว nubia Neo3 5G มือถือเกมมิ่ง Born to Win ดีไซน์สุดท่ มี Tiggers เล่นเกมฟินๆ หน้าจอ 120Hz สเป...
ภาพหลุดล่าสุด! เปรียบเทียบความบาง iPhone 17 Air กับ iPhone 17 Pro บางเฉียบจนน่าตกใจ
vivo โชว์พลังกล้องเรือธง X200 Ultra ที่พัฒนาร่วมกับ Fujifilm ก่อนเปิดตัวเมษาฯ นี้