www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 26 ธันวาคม 2559
ต้องบอกว่าในปีนี้เทรนด์กล้องคู่บนสมาร์ทโฟนมาแรงจริงๆ โดยหลากหลายแบรนด์ต่างนำฟีเจอร์นี้มาเป็นจุดขาย และเสริมทัพเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับรุ่นของตัวเอง ซึ่งการมาของ Dual Camera ก็ทำให้ผู้ใช้สามารถสนุกกับลูกเล่นการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอและนอกจากจะมีลูกเล่นดังกล่าวแล้ว กล้องคู่ยังสามารถช่วยให้ภาพถ่ายมีมิติและสวยงามยิ่งขึ้น ดังนั้นผู้เขียนจึงขอหยิบยกประเด็นนี้มาเล่าสู่กันฟังว่าการมาของกล้องคู่สมาร์ทโฟนมีแล้วดีขึ้นจริงหรือพร้อมจัดอันดับสมาร์ทโฟนประเภท Dual Camera และให้คะแนนกันเสียหน่อยว่ารุ่นไหนน่าสนใจที่สุด
Dual Camera มีมานานแล้วนะ แต่เพิ่งมาประสบความสำเร็จอย่างสูงในปีนี้
ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใดสำหรับเทรนด์นี้ โดยมีมานานแล้ว แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมมากนัก ซึ่งอาจสรุปได้ว่าเทคโนโลยี ณ ตอนนั้นอาจยังไม่ตอบโจทย์ได้ หรือยังไม่สามารถมองเห็นกุญแจสำคัญของ Dual Camera เจอ ทว่าในปีนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะว่าหลากหลายแบรนด์ต่างเปิดตัวออกมา ซึ่งมีไม่กี่แบรนด์สามารถไขกุญแจความสำเร็จได้ และในปีหน้าเองก็คาดการณ์ได้ว่าเทรนด์ดังกล่าวไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่นอน ลำดับต่อไปเรามาทำความรู้จักกล้องคู่ให้มากขึ้นว่าคืออะไร มีแล้วดีกว่าอย่างไร
กล้องคู่คืออะไร ทำไมถึงดีกว่ากล้องตัวเดียว
สำหรับกล้องคู่เป็นโซลูชั่นที่จะทำให้การถ่ายภาพบนสมาร์ทโฟนนั้นมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยองค์ประกอบสำคัญของ Dual Camera คือมีระบบการทำงานที่แยกออกจากกัน กดีไซน์ไว้ให้ทำหน้าที่เฉพาะผสมผสานซอฟต์แวร์ของเลนส์แต่ละตัว แล้วนำมารวมไว้ซึ่งผลลัพธ์ที่ภาพเดียวหรือก็พูดง่ายๆ ว่า เปรียบเทียบได้ว่ามีสองกำลังประมวลภาพ จึงทำให้ภาพนั้นสวยงามมีมิติยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เหตุผลที่กล้องเดียวไม่สามารถทำได้ดี นั่นก็เพราะว่าการจะทำให้ภาพมีประสิทธิภาพสูงสุด จะต้องใช้ฮาร์ดแวร์หลายอย่างส่งผลให้การออกแบบดีไซน์สมาร์ทโฟนเป็นไปได้ยาก รวมถึงพื้นที่ภายในเองก็มีอยู่อย่างจำกัด และยังเรื่องซอฟต์แวร์ถ้ามีชุดคำสั่งมากเกินไป ก็อาจไม่ใช่เรื่องดีนัก
ดังนั้นการมีชุดคำสั่งเฉพาะกับฮาร์ดแวร์ที่มีลักษณะการทำงานแตกต่างกัน แล้วก็นำภาพมารวมกัน จึงทำให้ดึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของกล้องแต่ละตัวได้ดีกว่า
นอกจากให้ภาพมีมิติกว่าเดิม สามารถสร้างมนต์เส่นห์การถ่ายภาพให้สนุกกว่าเดิมได้ด้วย
แน่นอนว่ากล้องเดียวไม่สามารถทำได้ดีนักโดยอาจต้องใช้แอพฯ ช่วยเพื่อให้ผลลัพธ์ตามต้องการได้ การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอมีความพิเศษไม่เหมือนการถ่ายภาพในลักษณะไหน เพราะจะสามารถดึงจุดเด่นของภาพที่เราต้องการให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้นอีก ภายใต้องค์ประกอบอื่นที่ถูกเบลอไป อีกทั้งยังช่วยสร้างสรรค์จินตนาการของเราได้ด้วย เนื่องจากการถ่ายเช่นนี้สามารถทำได้หลายแนว และสื่ออารมณ์ที่แตกต่างกันไป
หลังจากทราบแล้วว่ากล้องคู่มีดีอย่างไร ทำไมต้องมี ลำดับต่อไปมาสำรวจสมาร์ทโฟนกล้องคู่ที่เปิดตัวปีพุทธศักราช 2559 กันบ้าง คัดเลือกเฉพาะรุ่นที่วางจำหน่ายในบ้านเรา!
ก่อนอื่นต้องเกริ่นก่อนว่าทำไมถึงยกแค่ในบ้านเรามาบอกกล่าวเท่านั้น เพราะว่าทุกคนสามารถจับต้องเครื่องจริงได้ ผ่านร้านค้าตัวแทนชั้นนำทั่วไป ซึ่งนั่นถือว่าเป็นประสบการณ์ทำให้สามารถลองเล่นหรือสัมผัส ไม่ต้องมโนเห็นแต่ในภาพ และสิ้นปีแบบนี้เผื่อใครกำลังอยากตามเทรนด์ มองหาสักรุ่นหนึ่งไว้จับจองเป็นเจ้าของ ก็จะได้รู้ว่า ณ ตอนนี้ในบ้านเรามีสมาร์ทโฟน Dual Camera รุ่นใดวางจำหน่ายแล้วบ้าง
อันดับ 4
Apple iPhone 7 Plus : มาพร้อมกล้องคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลโดยตัวหนึ่งเป็นเลนส์มุมกว้าง 28 มิลลิเมตรอีกตัวเป็นเลนส์ถ่ายไกลมีชื่อว่า Telephoto 56 มม. ส่งผลให้แยกฉากหลังออกจากฉากหน้าทำให้สามารถถ่ายภาพบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ ผ่านระบบ AI : Machine Learning ส่วนรูรับมีแสงเลนส์กว้าง f/1.8 เลนส์ถ่ายไกลมีรูรับแสง f/2.8 ทั้ง 2 เลนส์ก็สามารถซูมแบบ Optical ได้ 2 เท่า และก็ซูมแบบ Digital ได้ 10 เท่า ผสมผสานเทคโนโลยี ISP ช่วยในกระบวนการนี้ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มความคมชัดและแสง
เทคโนโลยี ISP ที่จะทำงานร่วมกับกล้องคู่ของ iPhone 7 Plus คืออะไร
ต้องบอกว่าถ้าจะถ่ายภาพสักหนึ่งภาพนั้นต้องมีการประมวลผลกว่า 1 แสนล้านคำสั่งของ ISP ด้วยชุดคำสั่ง 1 แสนล้านคำสั่ง ใช้เวลาประมาณ 25 มิลลิวินาที (ms) แบ่งกระบวนการภาพเป็น 7 ขั้นตอน
ตอนนี้ iPhone 7 Plus จะมีราคาเริ่มต้น 31,500 บาท แต่ถ้าใครเล่นเน็ตอยู่แล้ว ก็สามารถอ่านรายละเอียดโปรโมชั่นของเหล่าโอเปอเรเตอร์ได้ และดูข้อมูลประกอบการตัดสินใจเพิ่มเติม : บทสรุปทุกเรื่องราวของ iPhone 7 กับ iPhone 7 Plus และ iOS 10 สงสัยอะไรที่นี่มีคำตอบ
ลำดับต่อไปมาดูในส่วนของ Huawei กันบ้าง ที่ปีนี้เทรนด์กล้องคู่ตอบโจทย์ได้ทุกเซกชั่นราคาเลยทีเดียว ตั้งแต่รุ่นเล็ก รุ่นกลาง ไปจนถึงรุ่นใหญ่
อันดับ 3
รุ่นเล็กสุด Huawei GR5 2017 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนกล้องคู่ราคาไม่ถึงหมื่นตัวแรกในประเทศไทย ถึงแม้ไม่ใช่กล้องมาตรฐาน Leica แต่ก็มีลูกเล่นกล้องคู่และคุณภาพประทับใจ นอกจากสเปกเรื่องกล้องแล้วยังโดดเด่นในเรื่องสเปกการใช้งานด้วย ใครสนใจสามารถเป็นเจ้าของราคา 8,900 บาทเท่านั้น
อันดับ 2
Huawei P9 & P9 Plus หัวเว่ยสร้างความเซอไพร์ส และถือเป็นการปฏิวัติการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนครั้งใหญ่เมื่อหัวเว่ยได้จับมือ Leica พัฒนากล้องคู่ที่มีเลนส์ Monochorm ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลและเลนส์ RGB ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยีจับภาพ Laser Focus แต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS)
แต่ก็สามารถชดเชยด้วยกลิ่นอายของความแตกต่างด้านการถ่ายภาพแบบ Monochorm ที่ไม่ต้องพึ่งแอพฯ ใดเปลี่ยนการถ่ายภาพแบบจำเจเดิมๆ ให้มีเอกลักษณ์และเข้าถึงอารมณความรู้สึกของภาพได้ดีกว่าเดิมด้วยโทนเฉดสีขาวดำ
สำหรับ Huawei P9 และ P9 Plus วางจำหน่ายแล้วในราคา 16,990 บาท กับ 21,990 บาท ทว่าทั้งสองรุ่นนี้ก็มีจัดโปรโมชั่นจากตัวแทนจำหน่ายเยอะอยู่เหมือนกัน แนะนำว่าถ้าหากใครอยากจับจองก็ศึกษารายละเอียดก่อน เพื่อที่จะได้รับความคุ้มค่ากลับมามากที่สุด
อันดับ 1
ต่อด้วย Huawei Mate 9 สมาร์ทโฟนเรือธงนอกจากชูจุดเด่นด้านประสิทธิภาพการทำงาน และความอึดของแบตเตอรี่ ยกระดับการถ่ายภาพจากสมาร์ทโฟนด้วยการพัฒนากล้องคู่เป็น Leica เจเนเรชั่น 2 คือเพิ่มความละเอียดเลนส์ Mono ถึง 20 ล้านพิกเซล ส่วนเลนส์ RGB ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเท่าเดิม ผสมผสานการจับโฟกัส 4 ขั้นตอน Laser-PDAF-Contrast-Depth กับมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) และสามารถบันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ 4K ได้แล้ว
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น Huawei ประเทศไทยวางจำหน่ายรุ่นปกติก่อนส่วนรุ่น Pro และ Porsche Design จะตามมาเสริมทัพในช่วงกลางเดือนมกราคม พ.ศ. 2560 ในราคา 27,900 บาท กับ 49,900 บาทตามลำดับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับสมาร์ทโฟนกล้งอคู่ที่หยิบยกนำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ ก็มีทั้งหมด 4 รุ่น (Apple iPhone 7 Plus, Huawei P9, Huawei P9 Plus, Huawei Mate 9, Huawei GR5 2017) ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมชอบภาพของ Huawei Mate 9 มากกว่า ทั้งยังมีคุณสมบัติของกล้องและโหมดน่าสนใจหลายอย่าง ส่วนคนอื่นนั้นมีความคิดเห็นแแบบไหนลองมาแชร์กัน รวมถึงรูปภาพต่างๆ และบอกเหตุผลชื่นชอบเพราะอะไรก็ดีนะครับ เผื่อไว้เป็นข้อมูลตัดสินใจให้ผู้อื่นที่กำลังมองหา Dual Camera จากทั้ง 5 รุ่นข้างต้นไว้ใช้งาน.....
วันที่ : 26 ธันวาคม 2559
JBL Endurance Zone หูฟัง Open-Ear ตัวท็อปสำหรับคนแอคทีฟ ไม่ต้องใส่เข้าไปในหู เบสก็กระหึ่ม แถมกันน้ำระดับสุดยอด6 ชั่วโมงที่แล้ว
ยุคใหม่ของความคมชัด HDMI 2.2 เปิดตัว ปูทางสู่จอภาพ 16K8 ชั่วโมงที่แล้ว
JBL Tune Beam 2 มาแล้ว หูฟัง TWS เบสแน่น ANC เจ๋ง แบตฯ อึด ที่คนรักเสียงเบสต้องลอง10 ชั่วโมงที่แล้ว
หลุดสเปค Nothing Headphone (1) ก่อนเปิดตัว แบตอึด 80 ชม. จูนเสียงโดย KEF14 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว ASUS V440 All-in-One PC ตั้งโต๊ะแบบมินิมอลที่ใช้จริงแล้วประทับใจ30 มิ.ย. 68 16:15
OPPO Reno14 F ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 1 หน้าจอ 120Hz แบตเตอรี่ 6000mAh
OPPO K13x สมาร์ทโฟนพันธุ์แกร่งเกรดกองทัพ กันน้ำ IP65 จอ 120Hz ในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้
vivo T4 Lite 5G สมาร์ทโฟน 5G ราคาประหยัด หน้าจอ 6.74 นิ้ว 90Hz แบตฯ 6000mAh
Redmi Note 14 Pro 5G BamBam Limited Edition และ Redmi Note 14 สี Sand Gold เปิดตัวอย่างเป็นทางการ...
TECNO Spark Go 2 หน้าจอ 6.67 นิ้ว 120Hz กันน้ำกันฝุ่น IP64 แบตฯ 5000mAh
Samsung Galaxy S26 Ultra และ S26 Edge ปรากฏข้อมูลบน IMEI อาจเปิดตัวพร้อมกันต้นปี 2026
HUAWEI Pura 80 Ultra กล้องอย่างว้าว ซูม Optical ระยะ 3.7 กับ 9.4 เท่า ด้วยการสลับเลนส์
vivo Y300c สมาร์ทโฟนจอ AMOLED ลื่นๆ 120Hz ชิปเซ็ต Dimensity 6300
HONOR X6c สมาร์ทโฟนบัดเจ็ท แต่มาพร้อมจอลื่นๆ 120Hz ได้กล้องหลังคมชัด 50MP
TCL เปิดตัว NXTPAPER 11 Plus แท็บเล็ตจอใหญ่ 11 นิ้ว ถนอมสายตา ในราคาต่ำหมื่น
HUAWEI WATCH 5 กับ Multi-sensing X-TAP Technology นวัตกรรมตรวจสุขภาพรอบด้านด้วยปลายนิ้ว