www.siamphone.com
หลังจากที่ Samsung เปิดตัว Galaxy S9 และ S9+ ไปได้ไม่นาน หนึ่งในฟีเจอร์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดนั่นก็คือ AR Emoji หรือลูกเล่นแบบใหม่ที่ให้กลิ่นอายคล้ายกับ Animoji ของ iPhone X จาก Apple ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งหลายคนคงจะคิดว่ามันอาจจะเหมือนกัน หรือต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เราก็มีปัจจัยหลักที่ทำให้ 2 ฟีเจอร์นี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อะไรคืออีโมจิเคลื่อนไหว (Animated Emoji) ?
ดูเผินๆ แล้ว การใช้งานของทั้ง 2 ฟีเจอร์มีความคล้ายคลึงกันมาก เนื่องจากให้ความสามารถที่แปลงจากใบหน้าคนเป็นตัวการ์ตูนตามอารมณ์แบบน่ารักๆ เพื่อแชร์ให้กับเพื่อนๆ หรือครอบครัว ผ่านโซเชียลมีเดียทั้งหลาย ทั้งยังให้ความแปลกใหม่ออกไปจากเดิมที่เป็นเพียงรูปตัวอีโมจินิ่งๆ
อะไรคือความต่าง?
แม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้ออกมาจะเหมือนกัน แต่ก็มีพื้นฐานเบื้องต้นที่ต่างกันพอสมควร เริ่มกันด้วย Animoji ใน iPhone X ที่ใช้เซ็นเซอร์จากกล้องหลายตัวเพื่อบันทึกใบหน้ารูปแบบต่างๆ (รวมไปถึงการทำงานของ Face ID เช่นกัน) ซึ่งผลที่ได้ออกมา คือ หน้าไก่พูดได้, กระต่ายน่ารักๆ หรือรอยยิ้มจากอีโมจิรูปอุนจิ
และเพื่อใช้งาน Animoji นั้น เราต้องใช้งานอยู่ในแอพพลิเคชั่นที่ส่งข้อความและจะทำงานเมื่อเราเริ่มบันทึกวิดีโอสั้นๆ ประมาณ 10 วินาที โดยจะแชร์ผ่าน iMessage หรือแอพฯ อื่นได้ตามใจชอบเท่านั้น
มากันที่ฝั่ง Galaxy S9 และ S9+ ที่ไม่ได้ใช้เซ็นเซอร์จากกล้องหลายตัวเพื่อให้เกิด AR Emoji แต่ 2 รุ่นนี้ใช้กล้องหน้าเพียงตัวเดียว ผสานกับระบบซอร์ฟแวร์ภายใน เพื่อบันทึกใบหน้าของเราให้กลายเป็นอีโมจิ และสามารถบันทึกเป็นวิดีโอได้ด้วย
และสิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง 2 ฟีเจอร์นี้ คือใน Galaxy S9/S9+ เราสามารถตกแต่งตัวการ์ตูนอิโมจิที่ออกแบบได้เอง ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม, สีผิว, การแต่งกาย และอื่นๆ อีกมาก เพื่อให้เราได้อีโมจิที่เป็นตัวเรามากที่สุดคล้ายกับการเล่น The Sims เลยทีเดียว ทั้งนี้ เรายังเข้าถึง AR Emoji ได้ง่ายๆ เพียงแค่เข้าแอพฯ กล้องเท่านั้น ซึ่งเราสามารถบันทึกเป็นไฟล์ GIF ได้ถึง 18 แบบ โดยทั้งหมดนี้ iPhone X ยังไม่สามารถทำได้
แล้วอะไรคืออิโมจิที่ดีกว่ากัน?
หากถ้าเราไม่ได้จริงจังเรื่องการใช้งานส่วนนี้ ก็ไม่ต้องถึงกับซีเรียส แต่สำหรับผู้ที่ต้องใช้งานจริงแล้ว iPhone X ดูจะมีภาษีดีกว่าเล็กน้อยจากการใช้เซ็นเซอร์หลายตัวจนทำให้ได้อีโมจิที่เหมือนกับใบหน้าเรามากกว่า แต่หากใครต้องการความสวยงามหรือลูกเล่นหลากหลาย ทาง Galaxy S9/S9+ ก็ถือเป็นตัวเลือกแรกในฟีเจอร์นี้เลยทีเดียว
ที่มา : www.androidauthority.com วันที่ : 27 กุมภาพันธ์ 2561
iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging9 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว HONOR 200 Smart 5G คุ้มค่าเกินราคา สุดยอดสมาร์ทโฟนสำหรับคนชอบลุย13 ชั่วโมงที่แล้ว
Sonos จัดเต็มส่งท้ายปีกับโปรโมชั่น 12.12 ให้คุณช้อปฟินด้วยส่วนลดสูงสุดกว่า 30%11 ธ.ค. 67 07:00
Infinix ปล่อยเซอร์ไพรส์ HOT 50 Pro+ Series สีสันพิเศษ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข10 ธ.ค. 67 21:41
เตรียมเปิดตัว HUAWEI MatePad 12 X แท็บเล็ตฟังก์ชันเรือธง ผสานการทำงานกับอุปกรณ์เสริมอย่างไร้รอยต่อ10 ธ.ค. 67 19:29
iQOO 13 5G ขุมพลัง Snapdragon 8 Elite แบต 6150mAh รองรับ 120W FlashCharge พร้อม Bypass Charging
OPPO Find X8 Series สมาร์ทโฟนแฟลกชิปพลัง AI ซูมไกล 120 เท่า ด้วย AI Telescope Zoom
ลือ! iPhone 17 และ iPhone 17 Air ยังไม่มีซูม Optical 5x ฟีเจอร์นี้มีเฉพาะรุ่น Pro
HMD Fusion สมาร์ทโฟนที่สามารถปรับแต่งและซ่อมเองได้ด้วยมือคุณ!