Qualcomm เปิดตัวชิปเซ็ต Snapdragon 632, 439 และ 429

เป็นเวลาสองสามปีแล้วที่เราเห็นสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดงบสามารถแข่งขันกับสมาร์ทโฟนระดับอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามขณะที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนพยายามเข้าชิงส่วนแบ่งในตลาดเกิดใหม่ ต้นทุนของชิ้นส่วนภายในสมาร์ทโฟนระดับกลางถูกจับตามองมากขึ้น ชิปเซ็ตตระกูล Snapdragon 600 series ของ Qualcomm กลายเป็นตัวเลือกลำดับต้น ๆ โดยมีการออกแบบมาแล้วกว่า 1,350 ดีไซน์ ขณะที่ชิปเซ็ตตระกูล Snapdragon 400 series ก็กลายเป็นชิปเซ็ตที่ขายดีที่สุดของบริษัท มีการนำไปใช้งานบนอุปกรณ์ Android Go และอุปกรณ์สมาร์ทโฟนระดับล่างจำนวนมาก ล่าสุดทางบริษัทก็ออกมาเปิดตัวชิปเซ็ตบนสมาร์ทโฟนเพิ่มอีก 3 รุ่น ได้แก่ Snapdragon 632, Snapdragon 439 และ Snapdragon 429

ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคมปี ค.ศ. 2017 Qualcomm เคยเปิดตัว Snapdragon 660 / Snapdragon 630 ขณะที่การเปิดตัว Snapdragon 710 เมื่อเร็ว ๆ นี้ถูกมองว่าเป็นรุ่นสืบทอดของ Snapdragon 660 แม้ว่าชื่อรุ่นจะไม่ได้อยู่ในตระกูล Snapdragon 600 series ก็ตาม ส่วน Snapdragon 632 รุ่นล่าสุดนี้ถูกวางตัวเป็นรุ่นสืบทอดต่อจาก Snapdragon 626

Snapdragon 632 ถูกสร้างขึ้นโดยใช้หน่วยประมวลผล Kryo 250 semi-custom ซึ่งประกอบด้วย 4 แกนประมวลผลงานที่เน้นความเร็ว (4-core Cortex-A73 1.8GHz) และ 4 แกนประมวลผลงานที่เน้นประสิทธิภาพ (4-core Cortex-A53 1.8GHz) ชิปเซ็ตรุ่นนี้สร้างขึ้นภายใต้สถาปัตยกรรม FinFET 14nm โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและเน้นประสิทธิภาพการใช้พลังงานเช่นเดียวกับ Snapdragon 630 รุ่นก่อนหน้าโดย Qualcomm เผยว่าชิปรุ่นนี้มีประสิทธิภาพของการประมวลผลสูงกว่า 40% เมื่อเทียบกับ Snapdragon 626

ในส่วนของหน่วยประมวลผลกราฟิกจะใช้งาน Adreno 506 ที่ให้ประสิทธิภาพกราฟิกสูงกว่า Adreno 506 ที่ใช้งานบน Snapdragon 626 ถึง 10% มีโมเด็ม X9 LTE รองรับความเร็วระดับ Cat. 13 (อัตราการดาวน์โหลดสูงสุด 300Mbps / อัตราการอัปโหลดสูงสุด 150Mbps) สนับสนุนการแสดงผลหน้าจอความละเอียด FullHD+ สนับสนุนกล้องเดี่ยว 24MP หรือกล้องคู่ 13MP + 13MP รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ที่ความเร็ว 30 เฟรม/วินาที แต่ไม่สนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จแบตเร็ว Quick Charge 4.0

สำหรับ Snapdragon 439 และ Snapdragon 429 เป็นชิปเซ็ตสมาร์ทโฟนระดับล่างซึ่งมีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับ Snapdragon 430 และ Snapdragon 425 ตามลำดับ ชิปเซ็ตรุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นถูกสร้างขึ้นภายใต้กระบวนการผลิต FinFET 12nm เพื่อประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น โดย Snapdragon 439 ประกอบด้วยหน่วยประมวลผลแบบ Cortex-A53 8-core (2 clusters) แบ่งย่อยเป็น 4-core 1.95GHz เน้นประสิทธิภาพ + 4-core 1.45GHz เน้นประหยัดพลังงาน ขณะที่ Snapdragon 429 จะใช้หน่วยประมวลผล Cortex-A53 4-core ที่ความเร็ว 1.95GHz

Snapdragon 439 และ Snapdragon 429 มีหน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 505 และ Adreno 504 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่า Adreno 505 และ Adreno 308 บน Snapdragon 430 และ Snapdragon 425 ถึง 20% และ 50% ตามลำดับ

Snapdragon 439 สนับสนุนการแสดงผลหน้าจอความละเอียด FullHD+ ส่วน Snapdragon 429 สนับสนุนความละเอียดหน้าจอ HD+ ชิปเซ็ตทั้งสองรุ่นมีโมเด็ม X6 LTE โดย Snapdragon 439 รองรับกล้องเดี่ยว 21MP หรือกล้องคู่ 8MP + 8MP ขณะที่ Snapdragon 429 รองรับกล้องเดี่ยว 16MP หรือกล้องคู่ 8MP + 8MP ชิปทั้งสองรุ่นรองรับการบันทึกวิดีโอความละเอียด 1080p ที่ความเร็ว 30 เฟรม/วินาที และสนับสนุนการชาร์จแบตเร็ว Quick Charge 3.0

ชิปเซ็ตทั้งสามรุ่นจะถูกนำไปใช้งานบนสมาร์ทโฟนระดับกลางและระดับล่างตั้งแต่ช่วงปลายปี ค.ศ. 2018 เป็นต้นไป