ชี้เป้า! สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจาก OPPO, Vivo กับ Xiaomi ลดราคาพิเศษสูงสุด 3,000 บาท

ใกล้สิ้นปีแบบนี้หลายๆ แบรนด์มักออกโปรโมชั่นลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขาย อย่างไรก็ตามเบื้องต้นยังมีแค่สองแบรนด์เท่านั้นกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจาก OPPO, Vivo และ Xiaomi โดยจะมีรุ่นอะไรบ้าง มาติดตามกันเลย

OPPO A57 รุ่น RAM 4GB + ROM 64GB  และ รุ่น RAM 4GB + ROM 128GB สมาร์ทโฟนสุดคุ้ม ตอบโจทย์ประสิทธิภาพการใช้งานได้ไหลลื่นไม่มีสะดุด พร้อมให้คุณใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น มาพร้อมราคาใหม่เพียง 5,999 บาท จากราคาปกติ 6,299 บาท และราคาใหม่เพียง 6,999 บาท จากราคาปกติ 7,499 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป

เริ่มจากแท็บเล็ตกันก่อน มีเพียงหนึ่งรุ่นหล่อๆ เท่านั้น นั่นคือ OPPO Pad Air ซึ่งเป็นแท็บเล็ตที่มีความบางเบามากๆ เพราะตัวเครื่องมีขนาดบางเพียง 6.94 มิลลิเมตร บางกว่าสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่นเลยทีเดียว กับแบตเตอรี่ความจุ 7100mAh มีเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18 วัตต์ ความบันเทิงเต็มรูปแบบ มีลำโพง 4 ตัว รองรับเทคโนโลยีเสียง Dolby ATMOS อย่างไรก็ตามรุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อเฉพาะ WiFi เท่านั้น ไม่สามารถโทรเข้าโทรออกได้

• OPPO Pad Air | OPPO Enco Air2 Pro ฟังก์ชันอัดแน่น ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน ทั้ง Work & Play
• OPPO Pad Air แท็บเล็ตรุ่นบางเบา หน้าจอ 10.36 นิ้ว ลำโพง 4 ตัว รองรับเสียง Dolby ATMOS
• รีวิว OPPO Pad Air แท็บเล็ตดีไซน์โฉบเฉี่ยว หน้าจอ 2K พร้อมลำโพง 4 ตัว Dolby Atmos พร้อมความบันเทิงเต็มขั้นกับ OPPO Enco Air2 Pro หูฟังไร้สายเสียงทรงพลัง

ต่อด้วยสมาร์ทโฟนจาก Vivo ที่จัดหนักส่งท้ายปีลดสูงสุด 3,000 บาท vivo เอาใจสายเซลฟี่แบบจัดหนักจัดเต็ม ด้วย vivo V23 5G ที่มาพร้อมกล้องหน้าคู่ ความคมชัดสูงสุด 50MP มีระบบจับโฟกัสสายตา ให้ภาพถ่ายสวยคมชัดทุกโมเม้นท์ที่คุณเป็น ตามสโลแกนของ V23 Series จอ AMOLED ใหญ่คมชัดขนาด 6.44 นิ้ว FHD+ มีชิปเซ็ตประมวลผล MediaTek Dimensity 920 กับ RAM 12GB ที่มาพร้อมด้วย Extended RAM 2.0 เพิ่มขนาดแรมได้มากสุดถึง 12GB แบตเตอรี่ ความจุ 4200mAh และชาร์จไว 44W FlashCharge สร้างความเซอร์ไพรส์กับเฉดสีฝาหลังที่แปลกกว่าใคร สามารถเปลี่ยนได้เมื่อเจออุณหภูมิที่ต่างกัน จากราคาปกติ 17,999 บาท ลดเหลือเพียง 14,999 บาทเท่านั้น

• รีวิว vivo V23 5G กล้องเซลฟี่คู่ชัดสุด 50MP รุ่นแรกในไทย พร้อมเซอร์ไพรส์กับสี Sunshine Gold ฝาหลังเปลี่ยนสีได้

Redmi Note 11S หน้าจอแสดงผล 90Hz มีเซนเซอร์ตรวจจับแสงรอบเครื่อง 360 องศา จึงปรับแสงหน้าจออย่างเหมาะสมแบบเรียลไทม์ ทั้งมีโหมดอ่านหนังสือ (Reading Mode 3.0) เมื่อเปิดโหมดจะทำการลดแสงสีฟ้า และปรับแสงให้เหมาะสมต่อการอ่านหนังสือ E-Book บนหน้าจอแสดงผลประเภท AMOLED พร้อมมาตรฐานช่วงแสดงสีกว้าง DCI-P3 กับอัตราคอนทราสต์ 4,500,000:1 สามารถให้ความสว่างสูงสุด 1000nits ปุ่มโฮมมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝังไว้ ด้านซิมการ์ดประเภท Triple-Slot ใส่ได้สองซิมการ์ด พร้อมหน่วยความจำภายนอก โดยด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และช่องยิงสัญญาณ IR Blaster ทว่าไม่มีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน ด้านเทคโนโลยีพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน UFS 2.2 ให้คุณใช้งานไหลลื่น พร้อมระบบเชื่อมต่อครบครัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม...

• สรุปจุดเด่นและสเปค Redmi Note 11 /Note 11S ภาคต่อสเปคจัดเต็ม ราคาเบาเหมือนเดิม

Redmi Note 11 Pro 5G หน้าจอพาแนล AMOLED กว้าง 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ และอัตรา Refresh Rate สูงสุดถึง 120Hz ด้านชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 695 รองรับสัญญาณ 5G และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000mAh สนับสนุนชาร์จเร็ว 67W ทั้งนี้กล้องถ่ายรูปก็มาแบบหนักๆ ซึ่งกล้องหลังติดตั้งมา 3 เลนส์ ความละเอียดสูงสุด 108MP และมีการทำงานร่วมกับ AI

• รีวิว Redmi Note 11 Pro 5G สมาร์ทโฟน 5G ราคาไม่แรง ดึงดูดด้วยจอ AMOLED 120Hz และกล้อง 108MP

Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro มาพร้อมคำนิยาม “Master Every Scene” ที่ให้คุณเพลิดเพลินทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลสุดเทพ การีนตีคะแนน A+ จาก Display Mate, ลำโพงสเตอริโอมาตรฐาน Harman Kardon, กล้องสุดโหดเซนเซอร์รุ่นท็อปจาก Sony IMX766 และชิปเซ็ตตัวแรง Snapdragon 8 Gen 1 พร้อมแบตเตอรี่มีชาร์จเร็วทั้งแบบมีสายและไร้สาย จะเห็นได้ว่าทุกอย่างสุดหมด เป็นที่มาให้คุณเพลินทุกการใช้งาน  ดังนั้นจะพามาทำความรู้จักให้มากขึ้นกับ 15 เหตุผลที่คุณจะหลงรัก Xiaomi 12 Series มาติดตามกันได้เลย

• รีวิว Xiaomi 12 และ Xiaomi 12 Pro คู่หูหน้าจอ A+ 120Hz ลำโพง harman/kardon มาพร้อมคำนิยาม “Master Every Scene”

ทว่าน่าเสียดายที่ครั้งนี้ลดราคาแค่ Xiaomi 12 เท่านั้น