www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 30 สิงหาคม 2562
รีวิวโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy Note 10+ - ซัมซุง
Samsung Galaxy Note 10+ พี่ใหญ่ประจำตระกูล Samsung Galaxy Note 10 Series ที่มาพร้อมการจัดเต็มในทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นสเปคที่แรงเต็มที่ด้วยขุมพลัง Exynos 9825 แบบ 7 นาโนเมตร หน้าจอแสดงผลสุดกว้าง Dynamic AMOLED ดีไซน์ตัวเครื่องเบาบาง และกล้องรวมถึง 5 เลนส์ แล้วยังมีความโดดเด่นประจำซีรี่ย์อย่าง S-Pen ปากกาอัจฉะริยะ ที่มารอบมีการสั่งการแบบใหม่จากฟีเจอร์ Air Action ใช้สั่งการกลางอากาศราวกับรีโมท และมีลูกเล่นแปลกใหม่เกี่ยวกับปากกา S-Pen อีกมากมาย
ตัวเครื่อง Samsung Galaxy Note 10+ มีดีไซน์ที่ใหญ่ตามฉบับ Galaxy Note Seires ด้วยขนาดตัวเครื่อง 162.3 x 77.2 x 7.9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 196 กรัม มีการเคลือบกระจก Gorilla Glass 6 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
หน้าจอแสดงผล Dynamic AMOLED กว้าง 6.8 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3040x1440 พิกเซล) อัตราส่วน 19:9 รองรับคอนเทนด์ HDR10+ และมีดีไซน์รอยแหว่งแบบ Infinity-O
เหนือหน้าจอแสดงผล บริเวณรอยแหว่ง Infinity-O มีกล้องหน้าความละเอียด 10 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
ส่วนล่างหน้าจอแสดงผล จะแสดงให้เห็นว่าความกว้างของหน้าจอแสดงผล มีการกินตัวเครื่องไปค่อนข้างเยอะ จึงมีอัตราส่วนหน้าจอกับตัวเครื่องสูงถึง 91% ในขณะที่ปุ่มนำทางจะมาในรูปแบบซอฟแวร์ในหาจอ และมีที่สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอแบบ Ultrasonic
บนตัวเครื่อง มีช่องใส่ถาดซิมการ์ดแบบ Hybrid อยู่ทางซ้าย รองรับซิมการ์ดแบบ Nano SIM 2 ช่อง หรือเปลี่ยน 1 ช่องเป็น MicroSD Card ถัดมาทางขวาเป็นช่องลำโพงเสียง และรูไมโครโฟน
ใต้ตัวเครื่องมีปากกา S-Pen และช่องเก็บปากกาอยู่ขวาสุด ถ้ดมาทางซ้ายเป็นลำโพงเสียง ต่อมาเป็นพอร์ต USB Type-C และรูไมโครโฟน
ฝั่งขวาตัวเครื่องไม่มีปุ่มการใช้งานใดๆ
ฝั่งซ้ายตัวเครื่อง มีปุ่มเพิ่มลดเสียง และปุ่มล่างคือปุ่มพักหน้าจอ เมื่อกดค้างจะเป็นการเรียกใช้งาน Bixby อย่างไรก็ตามทั้ง 3 ปุ่มสามารถปรับแต่งให้ใช้งานในรูปแบบอื่นๆ ได้ โดยเข้าไปปรับแต่งที่การตั้งค่า
ผลิกมาที่ฝาหลังตัวเครื่้อง มุมบนซ้ายเป็นกล้องหลัง 3 เลนส์เรียงกันเป็นแนวตั้ง ถูกแบ่งเป็นเลนส์ Ultra Wide Camera 16 ล้านพิกเซล, เลนส์ Wide-angle Camera 12 ล้านพิกเซล และเลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล ถัดมาข้างขวาเป็นเลนส์ 3 มิติ DepthVision Camera และไฟแฟลช
อุปกรณ์ภายในกล่อง
RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน
ตัวเลือก RAM และพื้นที่เก็บข้อมูลภายในของ Samsung Galaxy Note 10+ จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 ตัวเลือกคือ 12GB+256GB ราคา 37,900 บาท และ 12GB+512GB ราคา 40,900 บาท ซึ่งสามารถเลือกได้ความเหมาะสมของผู้ใช้งาน แต่หากทั้ง 2 ตัวเลือกยังไม่พอ ก็ยังสามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุดอีก 1TB
ระบบปฏิบัติการ
ตั้งแต่แกะกล่องมา Samsung Galaxy Note 10+ จะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie และถูกปรับแต่งด้วย OneUI 1.5 ซึ่งหน้าตา UX กับ UI จะมีความเป็นเอกลักษณ์แบบฉบับ Samsung Galaxy รวมไปถึงแอพฯ และมีแอพฯ จากโรงงานบางส่วนเพิ่มมาให้
ตั้งค่าปุ่มด้านข้าง และปุ่ม Bixby
จะสังเกตุได้ว่าปุ่ม Bixby ข้างตัวเครื่องได้หายไป ซึ่งที่จริงแล้วปุ่ม Bixby ยังเรียกใช้งานได้จากการกดปุ่มพักหน้าจอค้างเอาไว้ แต่หากไม่สะดวกกับการใช้งานแบบนี้ก็สามารถเข้าไปปรับเปลี่ยนได้ที่ การตั้งค่า > คุณสมบัติขั้นสูง > ปุ่มด้านข้าง
การปิดเปิดเครื่อง ปกติสมาร์ทโฟนทั่วไปจะต้องกดปุ่มเพาเวอร์ค้าง แต่ Samsung Galaxy Note 10+ จะต้องกดปุ่มลดเสียง กับปุ่มเพาเวอร์พร้อมกัน หรือกดปิดในแผนด่วน ส่วนการแคปหน้าจอจะต้องกดปุ่มลดเสียง กับปุ่มเพาเวอร์พร้อมกัน 2 ครั้ง
หน้าจอหลัก
โหมดกลางคืน
โหมดกลางคืนหรือโหมดมืด จะเป็นการปรับเปลี่ยนธีมให้เป็นโทนสีดำ (เฉพาะหน้าตั้งค่า และแอพฯ บางแอพฯ) ซึ่งจะสะดวกต่อสายตาในการใช้งานตอนกลางคืน ผู้ใช้งานสามารถเปิดหรือปิดได้ด้วยตนเอง หรือกำหนดเวลาให้เปิดโหมดกลางคืนแบบอัตโนมัติ โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า > จอภาพ > โหมดกลางคืน
แผง Apps Edge และมุมมองป็อปอัพ
เมื่อผู้ใช้งานเลื่อนนิ้วจากขอบหน้าจอเข้ามาข้างใน จะเป็นการเปิดแถบ Apps Edge ขึ้นมา ซึ่งตรงนี้จะเหมือนเครื่องมือด่วนในการเริ่มใช้งานแอพฯ แบบไม่ต้องกลับไปหน้าโฮม และยังสามารถเปิดแอพฯ แบบมุมมองป็อปอัพ เมื่อทำการ Drag & Drop แอพฯ ไปยังทางซ้าย ทั้งนี้แผง Apps Edge ยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นแบบอื่นได้อีกมากมาย โดยเข้าไปตั้งค่าได้ที่ การตั้งค่า > จอภาพ > หน้าจอขอบ > แผง Edge
แถบการนำทาง
สำหรับการนำทางจะมีให้เลือก 2 แบบคือ ปุ่มการนำทาง และท่าทางเต็มหน้าจอ โดยปุ่มการทำงานจะมีการใช้งาน 3 ปุ่มมาตรฐานคือ ย้อนกลับ, กลับสู่โฮม และแอพฯ ล่าสุด ส่วนทางการเต็มหน้าจอ จะเป็นการเลื่อนหน้าจอทางด้านล่างขึ้นบน ทางซ้ายคือแอพฯ ก่อนหน้า, ตรงกลางคือ กลับสู่หน้าโฮม, ทางขวาคือ ย้อนกลับ โดยเข้าไปเลือกได้ตามใจชอบที่ การตั้งค่า > จอภาพ > แถบนำทาง
Always On Display
เมื่อทำการพักหน้าจอแสดงผล หากเปิดโหมด Always On Display หน้าจอจะทำการแสดงข้อมูลที่จำเป็นอย่างเช่น เวลา, วันที่, แบตเตอรี่, การแจ้งเตือน สามารถเข้าไปเปิดได้ที่ การตั้งค่า > ล็อกหน้าจอ > Always On Diaplay ในขณะที่รูปแบบการแสดงผล ก็สามารถเข้าไปเปลี่ยนได้ที่ การตั้งค่า > หน้าจอล็อก > รูปแบบนาฬิกา
แบ่งแอพฯ Dual Messenger
คนที่ใช้สังคมออนไลน์ และมีบัญชีการใช้งาน 2 บัญชีต้องชอบฟีเจอร์นี้แน่นอน เพราะเป็นการแบ่งแอพฯ ออกมาอีก 1 แอพฯ และการใช้งานจะเหมือนกันทั้งหมด ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ 2 บัญชีพร้อมกัน โดยที่ไม่ต้องสลับบัญชีไปๆ มาๆ ในแอพฯ เดียว ซึ่งทำได้ด้วยการเข้าไปที่ การตั้งค่า > คุณสมบัติขั้นสูง > Dual Messenger
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
ปากกา S-Pen โฉมใหม่
ความเป็นตระกูล Galaxy Note สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ปากกา S-Pen ซึ่งปากกา S-Pen โดย S-Pen ที่มากับ Samsung Galaxy Note 10+ จะมีความพิเศษกว่ารุ่นที่ผ่านๆ มา เพราะรอบนี้มีการใช้เซนเซอร์ Gyroscope ทำให้ S-Pen สามารถสั่งการกลางอากาศ แบบที่ไม่ต้องสัมผัสหน้าจอแสดงผล นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นชวนสนุกอีกมากมายเกี่ยวกับปากกา S-Pen โดยสามารถเข้ามาดูการลูกเล่นหลักทั้งหมดของปากกา S-Pen ได้ตามลิ้งค์ตรงนี้ https://news.siamphone.com/news-43148.html
Samsung DeX ใช้งานได้อิสระ และง่ายขึ้น
ฉีกกฏการใช้งาน Samsung DeX แบบเก่าทั้งหมด เพราะ Samsung DeX โฉมใหม่สามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้แล้ว เพียงใช้แค่สาย USB Type-C เท่านั้น และการทำงานก็มีความอิสระมากขึ้น สามารถใช้งานทั้ง 2 อย่างได้พร้อมกัน และโอนย้ายไฟล์ง่ายๆ เพียงแค่ Drag & Drop เท่านั้น สามารถตามไปดูการใช้งาน Samsung DeX โฉมใหม่แบบเต็มๆ ได้ตามลิ้งค์ตรงนี้ https://news.siamphone.com/news-43164.html
ลิงก์กับ Windows
ลิงค์กับ Windows เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจบน Samsung Galaxy Note 10 Series เพราะระบบนี้จะมาช่วยให้ Sync ข้อมูลรูปภาพไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ Windows ได้แบบรวดเร็วแบบไม่ต้องต่อสาย เพราะเป็นการส่งข้อมูลผ่านระบบ Cloud เพียงแค่มีบัญชีอีเมล์ของ Microsoft และโปรแกรม Your Phone บนคอมพิวเตอร์ ส่วนรายละเอียดทั้งหมดตามมาดูได้ทางลิ้งค์ตรงนี้ https://news.siamphone.com/news-43215.html
หน้าจอ Dynamic AMOLED กว้าง 6.8 นิ้ว รองรับคอนเทนด์ HDR10+
เรื่องหน้าจอแสดงผลไว้ใจ Samsung ได้เลย โดย Samsung Galaxy Note 10+ ก็ยังมาพร้อมสุดยอดหน้าจอ อย่าง Dynamic AMOLED พร้อมความกว้างถึง 6.8 นิ้ว มีความละเอียดระดับ QHD+ ดันความสว่างได้สูงถึง 1200 nit และยังรองรับคอนเทนด์ HDR10+ นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจาก VDE Germany และ TUV Rheinland มั่นใจได้ว่า หน้าจอจะให้แสงสีที่แท้จริง และไม่เป็นอันตรายต่อสายตา
ขุมพลัง Exynos 9825 แบบ 7 นาโนเมตร
ชิปเซ็ต Exynos 9825 จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักให้กับ Samsung Galaxy Note 10+ (ที่ขายในประเทศไทย) ซึ่งมารอบนี้มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นสถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตร ทำให้มีการประหยัดพลังงาน และทรงพลังมากขึ้น จากเดิม Exynos 9820 ที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบ 8 นาโนเมตร
ทดสอบการเล่นเกม และการบริการ Discord
Samsung Galaxy Note 10+ เป็นถึงสมาร์ทโฟนรุ่นท็อป มีสเปคต่างๆ ที่จัดเต็ม แน่นอนว่าการเล่นเกมไม่เป็นอุปสรรคแน่นอน ด้วยขุมพลังตัวใหม่ Exynos 9825 และ RAM สูงถึง 12GB ทั้งนี้ยังมีระบบ Game Launcher เป็นตัวจัดการเกม ค่อยบอกระยะเวลาที่เล่นเกม และจัดการการแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งนี้ยังมีการบริการจาก Discord ให้แบบฟรีๆ ทำให้สือสารกับเพื่อนได้สะดวกอีกช่องทาง
ROV เวอร์ชั่นใหม่ ได้ข่าวมาว่ามีการกินสเปคของเครื่องมากขึ้น แต่สำหรับ Samsung Galaxy Note 10+ สามารถใช้เล่นได้อย่างราบรื่น ปรับกราฟฟิกสุดทุกอย่าง พร้อมดันเฟรมเรตระดับสูงได้ เมื่อใช้เล่นจริงปรากฏว่าเฟรมเรตนิ่งๆ อยู่ที่ 59-60fps ซึ่งถือว่าสอบผ่านแบบไร้ปัญหา
เกมแนวยิงเอาชีวิตรอดอย่าง PUBG Mobile ก็สามารถเล่นได้อย่างสบายๆ ด้วยการตั้งค่ากราฟฟิกระดับสูงที่ HDR HD, ดันเฟรมเรตระดับ Ultra พร้อมเปิดความละเอียดภาพ และเงา เรียกว่าใครเป็นสาวกเกม PUBG Mobile ใช้ Samsung Galaxy Note 10+ เล่นได้เลนไม่มีผิดหวัง
เกมรถแข่งที่มีกราฟฟิกอลังการอย่าง Asphalt 9 ก็สามารถเล่นด้วยกราฟฟิกระดับสูง ซึ่งภาพและเอฟเฟคระหว่างเล่นจริง ก็มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ใครที่ชอบความสวยงามของตัวเกมแบบจัดเต็ม ใช้ Samsung Galaxy Note 10+ ได้เลย
ระบบระบายความร้อน Vapor Chamber
Samsung Galaxy Note 10+ จะมีการจัดการความร้อนระหว่างเล่นเกมได้ดี เพราะมีระบบระบายความร้อนอย่าง Vapor Chamber แบบใหม่ พร้อมทำงานร่วมกับ AI และ NPU เพื่อให้เล่นเกมได้อย่างไหลลื่น แม้จะปรับกราฟฟิกระดับสูงก็ตาม
ระบบเสียง Dolby Atmos
ด้านระบบเสียงถือว่าดีเยี่ยม เพราะมีการรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ทำให้คุณภาพเสียงที่ออกมามีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังใช้ระบบเสียง Dolby Atmos กับการเล่นเกมได้อีกด้วย นอกจากนี้ Samsung Galaxy Note 10+ ยังมาพร้อมลำโพงคู่ทำให้การเปิดเสียงจากลำโพงมีความดังสะใจ
สแกนลายนิ้วมือ Ultrasonic
ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอของ Samsung Galaxy Note 10+ ยังคงใช้เทคโนโลยี Ultrasonic ในการสแกน แต่จะต่างจาก Samsung Galaxy S10 Series ตรงพื้นที่ในการสแกนจะกว้างขึ้น เพื่อให้ทำการสแกนง่ายกว่าเดิม และมีการขยับที่สแกนให้ขึ้นมาสูงกว่าพอสมควร โดยการสแกนก็ถือว่ามีความแม่นยำสูง สแกนได้ง่ายทุกสภาพนิ้วมือ และสามารถจดจำลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ลายนิ้วมือ
สแกนใบหน้า
การสแกนใบหน้า เป็นอีกระบบรักษาความปลอดภัยของ Samsung Galaxy Note 10+ ซึ่งการสแกนก็มีความรวดเร็วทั้งช่วงจดจำใบหน้า และตอนสแกนปลดล็อก แต่ระบบยังทำงานได้ไม่ค่อยดีในที่แสงน้อย เนื่องจากไม่มีเซนเซอร์ 3 มิติ เป็นตัวช่วยในการสแกนใบหน้า
แบตเตอรี่ 4,300mAh รองรับชาร์จเร็ว 45W ชาร์จไร้สาย 15W
Samsung Galaxy Note 10+ ยังจัดเต็มในเรื่องของแบตเตอรี่ ด้วยขนาดใหญ่ถึง 4,300mAh มั่นใจการใช้งานได้ตลอดทั้งวัน เรื่องการชาร์จยังรองรับการชาร์จเร็วสูงสุดถึง 45W (แต่อะแดปเตอร์ที่ให้มาจะเป็นจ่ายไฟ 25W แบบ 45W ต้องซื้อแยก) และรองรับการชาร์จไร้สาย 15W
กล้องถ่ายรูป
หากย้อนไปดูสเปคกล้องถ่ายรูปของ Samsung Galaxy Note 10+ ตัวเลขความละเอียดอาจจะดูน้อยไปหน่อย แต่การใช้งานจริงๆ ไม่เป็นรองสมาร์ทโฟนที่มีความละเอียดกล้องสูงๆ เลย โดยกล้องหลังมาพร้อมกันถึง 4 เลนส์คือ เลนส์ Wide Angle 12 ล้านพิกเซล, เลนส์ Ultra Wide 16 ล้านพิกเซล เพิ่มความกว้าง 123 องศา, เลนส์ Telephoto 12 ล้านพิกเซล สามารถซูมแบบ Optical ได้ 2 เท่า และเลนส์ 3 มิติ DepthVision Camera
ส่วนกล้องหน้าแม้จะมีความความละเอียดเพียง 10 ล้านพิกเซล แต่การใช้งานจริงด้านเซลฟี่ถือว่าสอบผ่าน พร้อมให้ภาพใบหน้าที่ออกมาสวยงามน่าประทับใจ
ด้วยความสามารถของเลนส์ Ultra Wide จากกล้องหลัง ทำให้ Samsung Galaxy Note 10+ สามารถถ่ายรูปในมุมกว้างแบบ 123 องศา เป็นการเปิดมิติใหม่ในการถ่ายรูป และได้มุมภาพที่สวยงามออกมาอีกแบบ ที่สำคัญเลนส์ Ultra Wide มีความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซล เวลาใช้โหมดมุมกว้างภาพก็จะออกมาชัดสมบูรณ์
นี้คือระบบ AI จดจำซีนต่างๆ เพื่อปรับแต่งภาพที่ถ่ายออกมา ให้มีความสวยงามมากขึ้นแบบอัตโนมัติ ซึ่งทาง Samsung ได้ใช้การประมวลภาพ และ Local Mapping ในการปรับแต่งภาพ และตัวระบบมีการจดจำซีนต่างๆ ได้กว่า 30 โหมด เช่น ใบหน้า, ดอกไม้, ต้นไม้, ท้องฟ้า, ตัวอาคาร, สุนัข, แมว เป็นต้น
ไลฟ์โฟกัส หรือการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอจาก Samsung Galaxy Note 10+ จะมีความเนียนในการเบลอพื้นหลังสมบูรณ์มากทีเดียว และยังมีลูกเล่นการปรับแต่งเอฟเฟคการเบลอภาพจากลูกเล่นเอฟเฟค Bokeh เพื่อเพิ่มมิติใหม่ๆ ในโหมดไลฟ์โฟกัส โดยมีลูกเล่นทั้ง เบลอ, วงกลม, Spin, Zoom, และคัลเลอร์พอยท์ ทั้งนี้โหมดไลฟ์โฟกัส และเอฟเฟค Bokeh สามารถใช้ได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
การปรับแต่งหน้าสวยของ Samsung Galaxy Note 10+ จะไม่มีตัวเลือกให้ปรับเป็นส่วนต่างๆ แต่จะเป็นการปรับแบบภาพรวมทั้งใบหน้า โดยสามารถเลือกจะดับความเนียนได้ 0 ถึง 8 ระดับ เมื่อทดลองใช้งานก็พบว่า ใบหน้ามีความสวยงามพอสมควร และสามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
การถ่ายรูปตอนกลางคืนเป็นไปได้อย่างง่ายดาย เพราะ Samsung Galaxy Note 10+ มาพร้อมโหมดกลางคืน และระบบ Dual Aperture ซึ่งจะช่วยให้ถ่ายรูปตอนกลางคืนได้สวยงาม และเห็นรายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้น ในการใช้งานจริงก็ถือว่าง่ายดายมาก เพียงกดชัตเตอร์ จากนั้นถือค้างเอาไว้ 4-5 วินาที (ขึ้นอยู่กับสภาพแสงตอนนั้น) ก็จะได้ภาพตอนกลางคืนสวยๆ ออกมา
Samsung Galaxy Note 10+ ยังสามารถถ่ายวิดีโอไลฟ์โฟกัส หรือถ่ายวิดีโอหน้าชัดหลังเบลอแบบเรียวไทม์ได้ โดยระบบจะมีการเบลอภาพแบบเรียลไทม์ตลอดการถ่ายทำวิดีโอ พร้อมตัวเลือกการเบลอในรูปแบบต่างๆ เช่น เบลอปกติ, เบลอวงกลมขนาดใหญ่, ดัลเลอร์พอยท์ และกลิดช์ ซึ่งจะช่วยให้การบันทึกวิดีโอหน้าชัดหลังเบลอมีรูปแบบใหม่ๆ และเกิดเอฟเฟคเบลอที่สวยงามในอีกหลายๆ แบบ
ด้านหลังตัวเครื่องของ Samsung Galaxy Note 10+ จะมีไมโครโฟนอีกตัวซ่อนอยู่ด้านหลัง โดยไมโครโฟนตรงนี้จะมาช่วยในฟีเจอร์ Zoom-in Mic ซึ่งหลักการทำงานจะทำงานตอนบันทึกวิดีโอ และหากผู้ใช้งานซูมไปยังคนที่กำลังพูดอยู่ จะได้ยินเสียงคนนั้นดังขึ้น แม้จะอยู่ในระยะที่ไกลก็ตาม
นี้คือระบบป้องกันการสั่นไหวในขณะถ่ายวิดีโอ ซึ่งจะให้การถ่ายวิดีโอมีความนิ่งมากขึ้น แม้จะอยู่ในกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวแบบรวดเร็ว สามารถดูวิดีโอตัวอย่างได้ทางด้านล่าง
เล่น 3 มิติ DepthVision Camera ที่มีเฉพาะ Samsung Galaxy Note 10+ จะช่วยให้ใช้งานในเรื่องการวัดระยะ และสร้างโมเดล 3 มิติขึ้น โดยตอนนี้สามารถใช้ร่วมกับแอพพลิเคชั่นอย่าง Quick Measure และ 3D Scanner
สำหรับ AR Doodle เป็นลูกเล่นระหว่างการบันทึกวิดีโอ และปากกา S-Pen เพราะลูกเล่นนี้จะให้ผู้ใช้งานปากกา S-Pen วาดเขียนลงไปในวิดีโอได้ และสิ่งที่วาดเขียนลงไปจะมีการติดตามวัตถุที่แม่นยำ เมื่อการเลื่อนกล้องไปที่อื่น และเลื่อนกลับมาที่เดิมสิ่งที่วาดลงไปจะยังติดตามวัตถุอยู่ที่เดิม
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ
ขอขอบคุณ : บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด โทร. 02-689-3232
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : Samsung Galaxy Note 10+https://www.siamphone.com/spec/samsung/galaxy_note_10+.htm
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=460578
วันที่ : 30 สิงหาคม 2562
ZTE Blade V70 สมาร์ทโฟนระดับกลาง สเปคจัดเต็ม ดีไซน์บางเบา4 ชั่วโมงที่แล้ว
iPhone SE 4 ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ สู่ยุค 5G เต็มรูปแบบ4 ชั่วโมงที่แล้ว
Apple เปิดตัวฟีเจอร์ Genmoji ใน iOS 18.2 สร้างอิโมจิแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใครด้วย AI บน iPhone10 ชั่วโมงที่แล้ว
Samsung Galaxy S25 Slim สุดยอดกล้องระดับไฮเอนด์ในตัวเครื่องที่บางเฉียบ12 ชั่วโมงที่แล้ว
vivo Y200 5G สมาร์ทโฟนน้องเล็กสายแกร่ง พร้อมท้าทุกการใช้งาน ยาวนาน 4 ปีเต็ม21 พ.ย. 67 15:00
Samsung Galaxy S25 Slim สุดยอดกล้องระดับไฮเอนด์ในตัวเครื่องที่บางเฉียบ
Samsung Galaxy A16 จอ FHD+ Super AMOLED ใหญ่ชัดเสมือนจริง กล้อง Triple camera แบตยาวนานขึ้น
Samsung Galaxy S25 Ultra มาแน่! พร้อมตัวเลือกสีสุดอลังการถึง 7 เฉด
Samsung เปิดตัวสมาร์ทโฟนพับรุ่นพิเศษ Galaxy W25 และ W25 Flip ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคระดับพรีเมียมใ...
ทำความรู้จัก Samsung Galaxy A16 5G อัปเดต OS นาน 6 ปี นานที่สุดที่เคยมีมา เคาะราคาไทยแล้ว!
Samsung Galaxy Z Fold6 Special Edition สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นพิเศษที่บางและเบากว่าเดิม
OPPO Pad 3 Pro แท็บเล็ตเรือธงรุ่นใหม่ หน้าจอ 144Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 3
iPhone 16 Pro และ iPhone 16 Pro หน้าจอใหญ่ขึ้น ประมวลผลแรงสุด กล้องจัดจ้าน ราคาก็ถูกลงอีก!
ทำความรู้จัก Samsung Galaxy A16 5G อัปเดต OS นาน 6 ปี นานที่สุดที่เคยมีมา เคาะราคาไทยแล้ว!
RedMagic 10 Pro Series สมาร์ทโฟนเกมมิ่งเรือธงที่พลิกโฉมวงการเกมสมาร์ทโฟน
Honor X9c สมาร์ทโฟนพันธุ์แกร่ง ทนทานสุดขีด พร้อมประสิทธิภาพเหนือชั้น