[บทวิเคราะห์] หัวชาร์จอะแดปเตอร์และหูฟัง อาจไม่แถมในกล่อง แล้วอะไรที่ควรเลิกแถม?

เป็นไปตามคำทำนายแล้ว [บทวิเคราะห์] Apple ไม่แถมหูฟัง เพราะเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อม แล้วแอนดรอยด์จะร่วมแจมไหม? ต้องบอกว่าท้ายที่สุดฝั่งแอนดรอยด์ก็เริ่มขยับตามเทรนด์นี้ ดังนั้นเราจะมีวิเคราะห์กันหน่อยว่าทำไมกันแน่ ?

ก่อนจะไปวิเคราะห์เรื่องราวนั้น มาสรุปต้นเรื่องกันหน่อยว่า มีจุดเริ่มต้นอย่างไร โดยเทรนด์นี้เริ่มจากการที่เหล่าผู้ผลิตตัดสินใจตัดช่องหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรออก แล้วเหลือแค่เพียงพอร์ต USB Type-C เท่านั้น บทวิเคราะห์ : ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรจะถูกแทนที่โดยหูฟังไร้สาย จนท้ายที่สุดหลายๆ แบรนด์ก็เริ่มไม่แถมหูฟังแล้ว ต่อไปก็มาถึงหัวชาร์จอะแดปเตอร์ที่ในปี 2021 นี้ เราอาจจะไม่ได้เห็นแถมในกล่องอีกต่อไป

เหตุผลที่เลิกแถมหัวชาร์จอะแดปเตอร์ คืออะไร

• รักสิ่งแวดล้อม รักษ์โลก ด้วยการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์
• ลดขนาดกล่องผลิตภัณฑ์ให้มีขนาดเล็กลง ขนส่งได้มากขึ้น
• เทคโนโลยีชาร์จเร็ว ต้องซื้อหัวชาร์จอะแดปเตอร์แยก ยกตัวอย่าง สมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 45 วัตต์ แต่ในกล่องแถมมาให้แค่ 15 วัตต์ เมื่อคุณชาร์จแบตเตอรี่จึงชาร์จได้แค่ 15 วัตต์เท่านั้น จึงต้องซื้อใหม่อยู่ดี (แต่คงไม่ใช่เหตุผลว่า ควรแถมมา หรือไม่แถม)
• อายุการใช้งานนานกว่า เมื่อต้องการเปลี่ยนรุ่นใหม่ หากขั้วไฟไม่หักเสียหาย อายุการใช้งานนานมาก เมื่อเทียบกับระยะเวลาและความต้องการในการเปลี่ยนรุ่นใหม่
• เพิ่มกำไรให้กับฝ่ายอุปกรณ์เสริม บ่อยครั้งที่เรามักเห็นหัวชาร์จอะแดปเตอร์เกลื่อนตลาด แต่คราวนี้อาจมีการแข่งขันเกิดขึ้น ด้วยความแปลกใหม่ที่ได้จากการแข่งขัน

สมาร์ทโฟนช่วงราคาไหนที่น่าจะไม่มีหัวชาร์จอะแดปเตอร์แล้ว

คาดว่าจะเป็นช่วงราคาเป็นหมื่่น เพราะกลุ่มตลาดนี้เป็นกลุ่มลูกค้าเฉพาะ อาจเป็นการทดลองตลาดก่อนว่ามีความเหมาะสมจะใช้กลยุทธ์นี้หรือไม่ แล้วประเมินจากผลลัพธ์อีกครั้ง เพราะหากเริ่มจากกลุ่มสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่เป็นกลุ่มตลาดใหญ่ อาจจะทำให้แบรนด์นั้นๆ ตกที่นั่งลำบากในช่วงเวลานั้นได้เลย

ลองทาย ภายในกล่อง ถ้าไม่ใช่หัวชาร์จอะแดปเตอร์ แล้วอะไรที่ควรตัดออก

ปกติกล่องของสมาร์ทโฟนจะประกอบไปด้วยอะไรบ้าง

• สมาร์ทโฟน
• หูฟัง
• สายเชื่อมต่อและสายชาร์จ USB
• หัวชาร์จอะแดปเตอร์
• ใบรับประกัน
• คู่มือการใช้งาน
• เคสใส
• ที่จิ้มถาดซิมการ์ด

แน่นอนว่าหากเลือกได้ คงไม่ใช่สมาร์ทโฟน เพราะเราตั้งใจซื้อนี่! ผ่าม ผ๊าม หากเลือกได้ควรจะยกเลิกใบรับประกันและคู่มือการใช้งาน อันดับแรก แล้วเหลือเพียงกระดาษหนึ่งแผ่นพร้อมสัญลักษณ์ QR Code อยากรู้อะไรก็สแกน ลำดับต่อมา คือ เคสใส เพราะว่าแถมมาก็ไม่สามารถป้องกันอะไรได้ ไม่ว่าจะเป็น รอยนิ้วมือ, การกระแทก หรือความชื้น ต่อด้วยที่จิ้มถาดซิมการ์ด เนื่องจากในอนาคต มีแนวโน้มที่สมาร์ทโฟนจะเป็นเทรนด์ eSIM (embedded SIM) ซิมรุ่นใหม่ ก้าวต่อไปของซิมการ์ดในอนาคต ?

สุดท้าย คือ 3 ปัจจัยสำคัญ ความพึงพอใจพื้นฐาน ถ้าหากไม่นับเรื่องเหตุผลนานัปการ ได้แก่ หัวชาร์จอะแดปเตอร์, หูฟัง และสายเชื่อมต่อและสายชาร์จ USB เพราะบางคนก็ดีใจที่มีมาให้ บางกลุ่มคนอาจรู้สึกว่าไม่มีก็ได้ เพราะไม่ตรงต่อสเปกและลักษณะการใช้งานอยู่ดี ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะตัดสิน ด้วยเหตุผลด้านความรู้สึก

อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจะตัดสินใจทำเพราะอะไร เหตุผลหลัก คงหนีไม่พ้น กำไรที่มากขึ้น ทั้งในแง่ของการเสียภาษี, การขนส่ง, การใช้วัสดุในการผลิต เป็นต้น แต่สุดท้ายจุดจบจบไป อาจมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นมาก็ได้ เหมือนกับหูฟังที่ไม่ต้องใช้สายเสียบ เลือกใช้เป็นหูฟังไร้สาย แถมยังได้ยินคงอื่นพูดเวลาสนทนา พร้อมกับตัดเสียงรบกวน เก่าไป ใหม่มา นี่ละ คือโลกของเทคโนโลยีกับนวัตกรรมที่หมุนอยู่ทุกวัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 
  ทำความรู้จัก Samsung Galaxy A25 5G หน้าจอ 120Hz ลำโพงสเตอริโอ Dolby ATMOS ราคาไทยหมื่นต้นๆ
• 
  แตกต่างอย่างไร! Samsung Galaxy A15 4G vs Samsung Galaxy A15 5G ราคาไทยต่างกัน 2,000 บาท

ติดตามข่าว สยามโฟน.คอม ที่