www.siamphone.com

ข่าว

รีวิว ROG Phone 8 Pro Edition ดีไซน์สวยแบบเรียบหรู แต่ยังแรงดุดันฉบับนักเล่นเกม

สมาร์ทโฟน (Smartphone)   |   วันที่ : 6 กุมภาพันธ์ 2567

มาถึงกันแล้วกับ ROG Phone 8 Series โดยขนมาขายในบ้านเราด้วยกัน 3 รุ่นคือ ROG Phone 8 Pro Edition, ROG Phone 8 Pro และ ROG Phone 8 การมารอบนี้ยังคงให้สเปคที่จัดเต็ม เหมาะกับการเป็นสมาร์ทโฟนเพื่อการเล่นเกมเช่นเคย แต่สิ่งที่แปลกออกไปคือ การดีไซน์ตัวเครื่องที่ดูเรียบหรูให้ความพรีเมี่ยมมากขึ้น ซึ่งมีตัวเครื่องที่บาง ขอบเครื่องแบบเรียบ หน้าจอกว้างชิดขอบ และไม่ได้ดูล้ำๆ แปลกๆ เหมือนกับ ROG Phone ที่ผ่านๆ มา สำหรับ 2 รุ่นแรกจะต่างกันแค่ขนาด RAM กับ ROM และรุ่นเล็กสุดจะถูกลดสเปคบางส่วน พร้อมกับดีไซน์ที่แตกต่างเล็กน้อย แต่ในการรีวิวนี้จะเน้นไปในรุ่น ROG Phone 8 Pro Edition

รูปลักษณ์ภายนอกLook & Design

ขนาดตัวเครื่อง และน้ำหนัก

  • ROG Phone 8 Pro Edition : 163.8x76.8x8.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก : 225 กรัม
  • ROG Phone 8 : 163.8x76.8x8.9 มิลลิเมตร และน้ำหนัก : 225 กรัม

หน้าจอแสดงผล AMOLED กว้าง 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080) อัตรา Refresh Rate แบบ LTPO สูงสุด 165Hz ปรับความสว่างได้สูงสุด 2,500nits และครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2

เหนือหน้าจอแสดงผล ใช้ดีไซน์รอยแหว่งแบบจอเจาะรู ในนั้นมีกล้องหน้า ความละเอียด 32MP และขอบหน้าจอด้านบนเป็นลำโพงเสียง

ล่างหน้าจอแสดงผล มีที่สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และไม่มีปุ่มใช้งานแบบฮาร์ดแวร์

ข้างซ้ายตัวเครื่อง มีพอร์ต USB Type-C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และติดตั้งพัดลมระบายความร้อน AeroActive Cooler X

ข้างขวาตัวเครื่อง มีปุ่มใช้งานพื้นฐานคือ ปุ่มยาวเพิ่มเสียงลดเสียง และปุ่มเพาเวอร์ ถัดลงมาเป็นรูไมโครโฟน นอกจากนี้ด้านบนสุด และล่างสุดยังเป็นปุ่มเสริม AirTrigger เพิ่มมิติในการเล่นเกม

ส่วนบนตัวเครื่อง มีเพียงรูไมโครโฟนเท่านั้น

ใต้ตัวเครื่อง ทางซ้ายสุดมีรูไมโครโฟน ถัดมาเป็นพอร์ต USB Type-C ตามมาด้วยช่องใส่ถาดซิมกาด รองรับ NanoSIM 2 ช่อง และมีลำโพงเสียง พร้อมช่องเสียบหูฟัง 3.5mm

ด้านฝาหลังตัวเครื่อง ROG Phone 8 Pro Edition จะให้ความพรีเมี่ยมมากกว่า โดยมีผิวสัมผัสแบบนุ่มๆ เหมือนบาง และมีผิวแบบดำด้าน ส่วน ROG Phone 8 จะเป็นแบบพลาสติก ทั้งคู่ยังมีหน้าจอไฟ LED หรือทาง ROG เรียกว่า Anime Vision

ส่วนกล้องหลังจะมีโมดูลแบบ 5 เหลี่ยม นูนสูงขึ้นมา โดยทั้ง 2 รุ่นมีกล้องหลังที่แตกต่างกัน

ROG Phone 8 Pro Edition

  • กล้องหลัก Sony IMX890 ขนาด 1/1.56 นิ้ว ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.9 กันสั่น Gimbal OIS
  • กล้อง Telephoto ความละเอียด 32MP รูรับแสง f/2.4
  • กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 13MP เปิดมุมกว้าง 120 องศา

ROG Phone 8

  • กล้องหลัก Sony IMX890 ขนาด 1/1.56 นิ้ว ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.9 กันสั่น Gimbal OIS
  • กล้อง Macro ความละเอียด 5MP
  • กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 13MP มุมกว่าง 120 องศา

อุปกรณ์ในกล่อง

  • ตัวเครื่อง ROG Phone 8 Edition
  • อะแดปเตอร์ Type-C จ่ายไฟ 65W
  • สายถัก USB Type-C To Type-C
  • พัดลม AeroActive Cooler X (ROG Phone 8 จะไ่ม่ได้พัดลม)
  • เคส Aero Case
  • สายนำถาดซิมออก
  • ซองผ้าใส่พัดลม
  • คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน

จุดเด่นน่าสนใจSpecial & Features

โดดเด่นด้วยดีไซน์สวยแบบเรียบๆ ดูพรีเมี่ยมROG Phone 8 Pro Edition มีความโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ปรับโฉมมาใหม่ดูเรียบหรู ไม่ดุดันเหมือน ROG Phone รุ่นเก่าๆ ที่มีความเป็นเกมมิ่งโฟนแบบจ๋าๆ และยังมีความบางกว่า 15% เล็กกว่า 17% เบากว่า 9% หากเทียบกับรุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมีฝาหลังให้การสัมผัสแบบนุ่มๆ ผิวแบบดำด้านเนียนๆ ให้ความเป็นสมาร์ทโฟนผสมเกมมิ่งโฟนแบบ Premium Device อย่างลงตัว ส่วน ROG Phone 8 จะให้ฝาหลังแบบพลาสติก แต่ขนาดกับน้ำหนักยังเท่าตัวโปร

 

จอหลัง AniMe Vision ไฟ LED ใส่ข้อความเองได้ด้วยด้านฝาหลังของ ROG Phone 8 Pro Edition จะมีหน้าจอ LED ที่เรียกว่า AniMe Vision โดยในจอมีไฟ LED กว่า 341 ดวง สามารถแสดงภาพเคลื่อนไหว หรือปรับแต่งเองได้ เวลาทำกิจกรรมต่างๆ ในเครื่อง ส่วนสิ่งที่ชอบมากๆ คือ การใส่ข้อความได้เอง ทำเป็นไฟวิ่งเวลาไปดูคอนเสิร์ตได้อีกทาง ส่วน ROG Phone 8 จะเป็นไฟ Aura Sync เล่นแสงสีกับโลโก้ ROG แทน

 

หน้าจอแสดงผล AMOLED รีเฟรช LTPO 165Hzมารอบนี้ ROG Phone 8 Series ปรับหน้าจอใหม่ดูกว้าง และทันสมัยขึ้น เพราะมีการปรับมาใช้รอยแหว่งหน้าจอแบบจอเจาะรู จากเดิมส่วนบนจะมีการกินพื้นที่หน้าจอไว้เป็นกล้องหน้า ส่วนหน้าจอยังเป็นพาแนล E6 AMOLED กว้าง 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ให้สีที่แม่นยำสวยงามมาตรฐาน Delta-E < 1 และปรับความสว่างได้สูงสุด 2500nits ในขณะที่อัตรา Refresh Rate สูงสุด 165Hz เป็นแบบ LTPO รองรับ adaptive refresh rate ปรับให้แบบอัตโนมัติตามลักษณะการใช้งาน และมีอัตราการตอบสนองสูงถึง 720Hz สัมผัส เคลื่อนไหวติดนิ้ว ไม่พอแค่นั้นยังมีความแข็งแกร่งด้วยการครอบทับ Gorilla Glass Victus 2

สเปคแรงเล่นเกมลื่นๆ ด้วย Snapdragon 8 Gen 3ทั้งการใช้งาน และการเล่นเกมแทบไม่ต้องเป็นห่วง เพราะ ROG Phone 8 Series ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ชิปเซ็ตระดับเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุด ทำงานร่วมกับ RAM สูงสุด 24GB LPDDR5x และ ROM 1TB แบบ UFS 4.0 ความแรงไม่ได้มีแค่ฮาร์ดแวร์ยังมีซอฟแวร์ X-Mode ช่วยรีดประสิทธิภาพการทำงานให้อยู่ขั้นสูงสุดตลอดเวลา เสริมความเร็วให้ทุกการใช้งานได้ง่ายๆ โดยการเข้า X-Mode สามารถเริ่มได้ด้วยการบีบตัวเครื่องช่วงล่าง แต่การใช้งานในโหมดนี้จะกินแบตเตอรี่พอสมควร

ทดสอบการเล่นเกมROG Phone 8 Series เป็นเกมมิ่งโฟนตัวท็อปขนาดนี้ เล่นเกมแบบปรับกราฟฟิกสูงๆ ไม่ได้ก็เสียชื่อเปล่าๆ โดยในการทดสอบได้ใช้เกม Genshin Impact ในการทดสอบก็เล่นได้แบบลื่นๆ ด้วยกราฟฟิกระดับสูง และอัตรารีเฟรช 60fps ส่วนอีกเกมเป็น PUBG Mobile สามารถปรับกราฟิกในระดับ Ultra HDR และเฟรมเรตระดับสูง ซึ่งการเล่นจริงก็ไร้ปัญหาเช่นเคย ทั้งนี้ในระหว่างเล่นเกมผู้ใช้สามารถเปิดหน้าต่างตัวช่วยอย่าง Game Genie สำหรับการปรับแต่งต่างๆ ในระหว่างเล่นเกม โดยการเปิดหน้าต่างต้องทำการปัดหน้าจอมุมบนซ้าย หรือขวาลากเป็นแนวทแยง

 

เล่นเกมง่ายขึ้นจากปุ่ม AirTriggersปุ่มเสริม AirTriggers ยังคงมีมาให้เช่นเดิม โดยจะอยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่อง แต่ละข้างสามารถแบ่งเป็น 2 ปุ่มได้ และปรับแรงกดได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการควบคุมแบบไจโร เหมาะกับเกมแนวขับรถ และปุ่มเสริมอีก 2 ปุ่มบนพัดลมระบายความร้อน AeroActive Cooler X ส่วนการตั้งค่าปุ่มสามารถปรับแต่งในระหว่างเล่นเกม ในแผงเครื่องมือ Game Genie

 

การระบายความร้อนดีเยี่ยม ติดพัดลม AeroActive Cooler X ยิ่งเย็นหายห่วงแม้ว่าตัวเครื่องจะมีความบางขึ้น แต่ระบบระบายความร้อนก็ให้มาแบบจัดเต็มด้วยระบบ GameCool 8 ภายในมีทั้ง Graphite Sheet 2 ชั้น, Rapid-cooling Conductor, Boron Nitride, Dual Batteries, และ Vapor Chamber ทั้งหมดสามารถระบายความร้อนได้ดี 360 องศา และลดความร้อนได้ดีขึ้น 20% จากที่ทดสอบก็ยังมีความร้อนออกมาอยู่ในการเล่นเกม Genshin Impact แบบปรับสุด แต่ก็ไม่ส่งผลกับการเล่นเกมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ROG Phone 8 Pro Edition ยังมีทางเลือกเสริมในการระบายความร้อนมาให้อีกคือ พัดลม AeroActive Cooler X เย็นจับใจมากกว่าเดิม พร้อมไฟ RGB ส่วนงาม

 

ระบบเสียง 3 มิติ ต่อหูฟังก็คุณภาพเสียงเต็มประสิทธิภาพเรื่องของระบบเสียงก็ให้มาแบบจัดเต็ม สร้างความบันเทิงได้เต็มรูปแบบ โดยลำโพงเสียงมาแบบลำโพงคู่ Stereo ปรับแต่งด้วยเทคโนโลยี OZO Audio ให้เสียงออกมาแบบ 3 มิติ และกำจัดเสียงรบกวนได้ดี นอกจากนี้ยังมีให้ประสบการณ์เสียงแบบขั้นสุดในการเชื่อมต่อกับหูฟัง ไม่ว่าจะไร้สาย หรือแบบสาย โดยมีระบบ Dirac Virtuo พร้อมกับระบบ AI ในการตัดเสียงรบกวน ไม่พอแค่นั้นยีงให้คุณภาพเสียงเทียบเคียงไฟล์ต้นฉบับด้วย Hi-Res และเสียงเที่ยงตรง และมีความหน่วงต่ำอย่าง Qualcomm aptX Adaptive และ aptX Lossless

ระบบความปลอดภัยไบโอเมตริกROG Phone 8 Pro Edition, ROG Phone 8 Pro และ ROG Phone 8 มาพร้อมระบบความปลอดภัยไบโอเมตริกทั้งสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ และสแกนใบหน้า

แบตเตอรี่เยอะ รองรับชาร์จไว 65Wทั้งหมด ROG Phone 8 Pro Edition, ROG Phone 8 Pro และ ROG Phone 8 มีแบตเตอรี่ขนาด 5500mAh มาให้ หากใช้งานทั่วไปก็เหลือๆ ตลอดทั้งวัน แต่เอาจริงๆ คนใช้งาน ROG Phone ก็จะเน้นใช้เล่นเกมเป็นหลัก แบบปรับภาพสวยๆ แน่นอนว่าคงไม่เหลือรอด ยิ่งเปิด X-Mode ยิ่งสูบแบตเตอรี่ไปใหญ่ ซึ่งตัวเครื่องก็รองรับการชาร์จพร้อมเล่นเกมไปด้วยได้ โดยรองรับการชาร์จเร็ว 65W HyperCharge USB PD สามารถชาร์จจาก 1% ใช้เวลา 45นาที กลับมาเต็ม 100% นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จไร้สาย 15W อีกด้วย

 

สเปคกล้องถ่ายรูปแม้ว่า ROG Phone 8 Pro Edition จะเป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นการเล่นเกมเป็นหลัก แต่การใช้งานกล้องถ่ายรูป ก็ถูกยกระดับให้ดีขึ้นมากทีเดียว โดยรอบนี้มาพร้อมตัวกันสั่นแบบ Gimbal OIS ใช้บันทึกวิดีโอระดับ FHD ที่ 60fps ได้ นอกจากนี้ยังมีกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลัก ความละเอียดสูงสุด 50MP ใช้เซนเซอร์ Sony IMX890 ขนาด 1/1.56 นิ้ว ต่อมาเป็นกล้อง Telephoto ความละเอียด 32MP กันสั่น OIS สามารถซูมแบบ Optical ได้ 3 เท่า และกล้องสุดท้ายเป็น Ultra-Wide ความละเอียด 13MP เปิดมุมกว้างได้ 120 องศา และมีกล้องหน้า ความละเอียด 32MP

ส่วนตัว ROG Phone 8 จะโดนตัดกล้อง Telephoto ออกไป และให้กล้อง Macro ความละเอียด 5MP มาแทน

ตัวอย่างภาพจากกล้องSample & Photo

เมนู & ฟังก์ชันMenu & Function

สเปคของ ROG Phone 8 Pro Edition

  • ขนาดตัวเครื่อง : 163.8x76.8x8.9 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 225 กรัม
  • หน้าจอแสดงผล : E6 AMOLED กว้าง 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400x1080) อัตรา Refresh Rate แบบ LTPO สูงสุด 165Hz ปรับความสว่างได้สูงสุด 2,500nits และครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2
  • ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ความเร็ว 3.3GHz
  • RAM : 16GB LPDDR5x
  • ROM : 1TB UFS 4.0
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 14
  • กล้องหลัง 3 ตัว พร้อมไฟแฟลช LED- กล้องหลัก Sony IMX890 ขนาด 1/1.56 นิ้ว ความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.9 กันสั่น Gimbal OIS- กล้อง Telephoto ความละเอียด 32MP รูรับแสง f/2.4- กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 13MP เปิดมุมกว้าง 120 องศา
  • กล้องหน้า ความละเอียด 32MP
  • เครือข่าย : 5G / 4G LTE / 3G / 2G รองรับ Nano SIM 2 ช่อง
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3, NFC, GPS, พอร์ต USB Type-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5mm
  • แบตเตอรี่ : 5,500mAh สนับสนุนชาร์จเร็วผ่านสาย 65W และไร้สาย 15W

สรุปสิ่งที่ ROG Phone 8 โดนลดสเปคลงมา

  • ROG Phone 8 คือรุ่นเล็กสุดในซีรี่ย์ โดยมีการดีไซน์ฝาหลังเป็นแบบพลาสติก และไฟฝาหลังแบบ RGB บนโลโก้ ROG
  • ไม่มีกล้อง Telephoto ได้กล้อง Macro แทน
  • RAM 12GB และ ROM 256GB

การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง

  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพความเร็ว AnTuTu Benchmark : 2,194,945 คะแนน
  • ผลการทดสอบประสิทธิภาพโดยรวม Geekbench 5 ได้คะแนน Single-Core : 2263 คะแนน และ Multi-Core : 7118 คะแนน
  • ผลการทดสอบกราฟิกด้วย 3D MARK (Wild Life Extreme) : 5194 คะแนน
  • ผลตรวจสอบระบบสัมผัสหน้าจอแบบ Multitouch สูงสุด 10 จุด

สรุปราคา และการจัดจำหน่ายในตอนนี้ ROG Phone 8 Series ก็ตบเท้าเข้ามาวางขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมาด้วยกัน 3 รุ่นคือ ROG Phone 8 Pro Edition, ROG Phone 8 Pro และ ROG Phone 8 พร้อมกับราคาเริ่มต้นที่ 29,990 บาท เริ่มเปิดให้จับจองในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นต้นไป

AIS Promotionราคาพิเศษเมื่อซื้อเครื่องพร้อมแพ็คเกจรายเดือนกับ AIS 5GROG Phone 8 ราคาเริ่มต้นที่ 25,690.-*, ROG Phone 8 Pro ราคาเริ่มต้นที่ 33,690.-* และ ROG Phone 8 Pro Edition ราคาเริ่มต้นที่ 43,690.-**เงื่อนไขตามที่ AIS กำหนด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: https://m.ais.co.th/epHZ4PpuY

คุ้มอีกถึง 3 ต่อ !!“พบกับโปรโมชันเปิดตัว ROG Phone 8 – Early Bird ซื้อก่อน คุ้มกว่าถึง 3 คุ้ม"

- คุ้มแรก :ครั้งแรกกับการ Trade-in ‘เก่าแลกใหม่’ ที่สามารถนำเครื่องเก่ามาแลกเป็นส่วนลดได้ พร้อมรับส่วนลดเพิ่มอีก 3,000 บาท จากราคาประเมินเฉพาะร้านตัวแทนจำหน่ายสาขาที่ร่วมรายการเท่านั้นเฉพาะวันที่ 1 กุมภาพันธ์ – 31 มีนาคม 2567

- คุ้มที่สอง :ซื้อตอนนี้ รับเลย1) DevilCase for ROG Phone 8 มูลค่า 1,490 บาท2) Glass Screen Protector for ROG Phone 8 มูลค่า 590 บาทของแถมจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลย

- คุ้มที่สาม :สแกน QR Code เพื่อลงทะเบียน รับกระเป๋า ROG Slash Sling Bag 2.0 มูลค่า 1,990 บาทสำหรับเฉพาะลูกค้าที่ซื้อรุ่น ROG Phone 8 (12/256) ทั้งสีเทา/สีดำ และ ROG Phone 8 Pro (16/512)โดยโปรโมชันนี้เฉพาะวันที่ 1 – 18 กุมภาพันธ์ 2567 เท่านั้น”

วันที่ : 6 กุมภาพันธ์ 2567

3,710
อ่าน

แบ่งปันบทความ

ข่าวล่าสุด

ไฮไลท์ข่าว

หมวดข่าว

None AMP version