www.siamphone.com
สมาร์ทโฟน (Smartphone) | วันที่ : 19 มีนาคม 2561
รีวิวโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy S9+ - ซัมซุง
Samsung Galaxy S9+ มิติใหม่ของสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกล้องถ่ายรูปรูรับแสงกว้างที่สุด f/1.5 รองรับการถ่ายรูปในที่แสงน้อย ทำงานบนจอแสดงผลแบบ infinity display กว้าง 6.2 นิ้ว ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมซีรีย์ 7000 มีความแข็งแรงทนทาน ชูจุดเด่นด้วยกล้องถ่ายรูปคู่ด้านหลังความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ Super Slow Motion ที่ความเร็ว 960 fps และเพิ่มลูกเล่น AR Emoji สร้างอวตาของตัวคุณเอง
ด้านดีไซน์ของ Samsung Galaxy S9+ ยังคงมีกลิ่นอายของ Galaxy S8+ อยู่บ้าง ตัวเครื่องผลิตจากวัสดุอะลูมิเนียมซีรีย์ 7000 ทำให้มีความแข็งแรงทนทาน โดยที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ขอบโค้งทั้งด้านหน้าและด้านหลังจับถนัดมือขึ้น ซึ่งมีขนาดอยู่ที่ 158.1 × 73.8 × 8.5 มิลลิเมตร น้ำหนัก 189 กรัม
หน้าจอแสดงของโค้งแบบ infinity display อัตราส่วน 18.5:9 สีสันสดใสด้วยเทคโนโลยี Super AMOLED ขนาดกว้าง 6.2 นิ้ว ความละเอียด 2960 x 1440 พิกเซล (529 ppi) เลือกใช้วัสดุกระจก Corning Gorilla Glass 5 ทนต่อรอยขีดข่วน
เหนือหน้าจอมีระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ รวมถึงเซ็นเซอร์สแกนม่านตา ช่องลำโพงเสียง และกล้องถ่ายรูปด้านหน้า
ส่วนด้านล่างหน้าจอมีขอบสีดำเพียงเล็กน้อย โดยที่ปุ่มควบคุมการทำงานจะอยู่ในหน้าจอ
ด้านบนจะมีช่องใส่ซิมการ์ดแบบถาดซิม ซึ่งจะรองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด แบบ Hybrid โดยช่องซิม 2 ต้องเลือกระหว่างใส่ซิม หรือ MicroSD และถัดไปทางริมด้านขวาจะเป็นรูไมโครโฟนตัวที่ 2
ตัวเครื่องด้านล่าง จะมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ถัดมาทางขวาเป็นพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type - C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ หรือซิงค์ข้อมูล พร้อมกับมีรูไมโครโฟน และช่องลำโพงเสียงตามลำดับ
ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ยังออกแบบให้มีปุ่มปรับระดับเสียงเพิ่ม-ลด และปุ่ม Bixby วางอยู่
ส่วนปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อคหน้าจอ จะอยู่ทางด้านขวาของตัวเครื่อง
ตัวเครื่องด้านหลังของ Samsung Galaxy S9+ เป็นดีไซน์กระจกโค้งรับกับขอบเครื่อง มีสีสันเงาสะท้อนแสง ตรงกลางจะมีเลนส์กล้องถ่ายรูปด้านหลังแบบคู่ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล รูรับแสงคู่ f/1.5 กับ f/2.4 ป้องกันการสั่นไหวด้วย Dual OIS อยู่ในแนวตั้ง ส่วนด้านล่างมีการออกแบบปุ่มสแกนลายนิ้วมาไว้ในตำแหน่งใหม่ ให้รองรับการใช้งานที่ง่ายขึ้น และด้านขวาของกล้องยังคงเป็นเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ
สรุปสเปคของ Samsung Galaxy S9+
หน่วยความจำภายใน / ระบบปฎิบัติการ
สำหรับ Samsung Galaxy S9+ ที่วางจำหน่ายในประเทศไทยจะมี 3 ความจุ ได้แก่ 64GB, 128GB และ 256GB ซึ่งจะรันบนระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ 8.0 ครอบทับด้วย Samsung Experience 9.0 ไอคอนมีความโค้งมนมากขึ้น ใช้งานง่าย
หน้าหลัก / หน้าแอพพลิเคชั่น
หน้าจอหลักจะเป็นพื้นที่แสดงวัน เวลา การแจ้งเตือนและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งหากปัดไปทางจะเป็นหน้า Bixby นอกจากนี้ หากเปิดใช้งานแผง Edge ที่ด้านขวาจะมีแถบเล็กๆ ขึ้นมาให้เลือกใช้งาน
วอลเปเปอร์ และ ธีม
ภาพวอลเปเปอร์ และ ธีมของซัมซุงจะมีให้เลือกใช้งานทั้งดาวน์โหลดฟรี และเสียเงิน มีไอคอนให้ปรับแต่งตามที่ผู้ใช้งาน
ออกาไนเซอร์พื้นฐาน
หน้าโทรศัพท์/ข้อความ/คีย์บอร์ด
การทดสอบความเร็วและการแสดงผลของเครื่อง
ทดสอบเซ็นเซอร์ด้วยโปรแกรม Android Sensor Box พบเซ็นเซอร์ดังนี้
Rear design
การออกแบบใหม่ที่ทำให้ Samsung Galaxy S9+ จับถือถนัดมือยิ่งขึ้น ซึ่งได้ย้ายปุ่มสแกนลายนิ้วมือจากที่เคยอยู่ข้างเลนส์กล้องลงมาไว้ด้านล่างตรงกลาง และอยู่ในแนวนอน ทำให้การใช้งานสแกนลายนิ้วมือทำได้ง่ายขึ้น
สแกนอัจฉริยะ
การใช้งานปลดล็อคตัวเครื่องมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะใช้รหัสผ่าน, รูปแบบ, สแกนลายนิ้วมือ, ปลดล็อคด้วยม่านตา หรือใบหน้า แต่ที่พิเศษคือ Samsung Galaxy S9+ ได้รวบรวมการปลดล็อคด้วยใบหน้าและม่านตาเข้าด้วยกัน ทำให้สามารถยืนยันตัวตนมีความแม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสภาพแสงอย่างไร โดยการปลดล็อคจะขึ้นอยู่กับว่าระบบสามารถประมวลการสแกนแบบไหนได้ก่อน ซึ่งการทำงานบนแอพพลิเคชั่นที่มีความสำคัญจะทำงานคู่กันทั้ง 2 อย่าง
กันน้ำ-กันฝุ่น
Samsung Galaxy S9+ ยังออกแบบให้มีมาตรฐานกันน้ำ-กันฝุ่นที่ระดับ IP68 สามารถกันน้ำลึกไม่เกิน 1.5 เมตร นานไม่เกิน 30 นาที โดยที่ต้องเป็นน้ำสะอาด สะดวกใช้งานหากจำเป็นต้องถ่ายรูปขณะฝนตก
ลำโพงคู่สเตอริโอที่ปรับแต่งเสียงโดย AKG
อีกหนึ่งจุดเด่นที่พิเศษที่ขนาดรุ่นใหญ่อย่าง Samsung Galaxy Note 8 ยังไม่คือลำโพงเสียงคู่แบบสตอริโอถูกนำมาใส่ไว้บน Samsung Galaxy S9+ แถมปรับแต่งโดย AKG ทำให้ได้เสียงที่ดังกระหึ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos ให้เสียงรอบทิศทางแบบสามมิติ ได้อรรถรสในการรับฟังคอนเทนต์ต่างๆ เหมือนในโรงภาพยนตร์ ซึ่งเมื่อเปิดเสียงดังสุดมีความดังเป็นที่น่าพอใจ
ระบบเสียง Dolby Atmos เข้าไปตั้งค่าได้ที่ ตั้งค่า > เสียงและการสั่น > คุณภาพเสียงและเอฟเฟ็กต์เสียง > เลือกเปิด Dolby Atmos จากนั้นสามารถปรับรูปแบบของเสียงได้ตามประเภทที่เราใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น อัตโนมัติ, ภาพยนตร์, เพลง เป็นต้น
Bixby
Samsung Galaxy S9+ ยังคงมีผู้ช่วยอย่าง Bixby โดยที่ปุ่มเรียกใช้งานยังอยู่ที่ด้านซ้ายของเครื่อง หรือสไลด์หน้าจอไปทางขวา ซึ่งการใช้งานยังคงเหมือนรุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็น Bixby (Vision) การค้นหาข้อมูลจากภาพ หรือสถานที่, Bixby (Home) เข้าถึงหน้า Dashboard ที่รวบรวมช่าว, App ที่ใช้งานบ่อย, Bixby (Reminder) ช่วยเตือนเรื่องสำคัญ, Bixby (Voice) แต่ได้เพิ่มความสามารถในการโต้ตอบด้วยการพูดคุย ซึ่งยังรองรับแค่ 3 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ, เกาหลี และภาษาจีน ภาษาอื่นๆ ต้องรอการอัปเดตอีกครั้ง
Edge Screen
แผงด้านข้างหน้าจอที่มีไว้สำหรับเรียกแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานบ่อยๆ หรือคนที่ติดต่อเป็นประจำ นอกจากนี้ในส่วนของ App edge ยังรองรับการตั้งค่า App Pair เหมือนกัย Note 8 ซึ่งเป็นการจับคู่แอพฯ ที่ใช้งานเป็นประจำในลักษณะของ Multi Window เมื่อต้องการเปิดใช้งานก็ง่ายเพียงคลิก โดยไม่ต้องมาเลือกเปิดใช้ที่ละหน้า สำหรับการตั้งค่า App Pair ต้องเข้าไปตั้งค่าใน Edge Screen > App edge > แก้ไข >แล้วเลือก สร้างคู่แอพฯ จากนั้นก็จะเห้นได้ว่ามีแอพฯ คู่กัน 2 อันไว้ใช้งาน
ทดสอบการเล่นเกม
Samsung Galaxy S9+ ที่มาพร้อมหน่วยประมวลผล Exynos 9810 Octa-Core 64bit RAM 6GB หลังจากทดสอบเล่นเกมที่มีความละเอียดสูงๆ ก็ทำได้ดี อย่าง ROV เล่นได้ที่ประมาณ FPS 30-31 และเมื่อเปิดสูงสุดที่ FPS 60 ก็เล่นได้ลื่นไหลไม่กระตุกแต่อย่างใด
ฟิล์ม Focus 3D Full Stick for Samsung Galaxy S9+
Samsung Galaxy S9+ ออกแบบให้หน้าจอมีลักษณะโค้งแบบ Infinity Display การเลือกกระจกกันรอยสำหรับหน้าจอก็สำคัญ ขอแนะนำ Focus 3D Full Stick for Samsung Galaxy S9+ เป็นกระจกกันรอยแบบกาวเต็มแผ่น ออกแบบให้โค้งรับกับหน้าจอ ขอบไม่เด้งหลุดง่าย เมื่อติดแล้วจะไม่มีฝุ่นเข้าไป นอกจากนี้ ยังใช้งานทัสกรีนได้ลื่นไหลเหมือนสัมผัสบนหน้าจอปกติ และตัวกระจกไม่มีจุดใดๆ ให้กวนใจ จึงทำให้ภาพที่แสดงมีความคมชัด สีสันสดใส
กล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปบน Samsung Galaxy S9+ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นในครั้งนี้ โดยกล้องหลังจะเป็นเลนส์คู่ 12+12 ล้านพิกเซล รูรับแสงคู่ f/1.5 กับ f/2.4 พร้อมระบบกันสั่นคู่ (OIS) และมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด f/1.7 รองรับการบันทึกวิดีโอภาพเคลื่อนไหวความละเอียด UHD (60 fps) - 3840x2160 พิกเซล มีโหมด Super Slow Motion ที่ความเร็ว 960 fps และลูกเล่นหลากหลายในกล้องถ่ายรูป
กล้องถ่ายรูปมีการปรับ UI ใหม่ โดยที่นำโหมดกล้องต่างๆ จากที่ต้องสไลด์ดูถูกนำมาไว้ที่แถบด้านบนแทน ซึ่งจะมีตั้งแต่ อัตโนมัติ, Super Slow Motion , AR Emoji, Hyperlapse, Live Focus, Pro, Panorama และ Food นอกจากนี้ กล้องหน้านอกจากจะมีโหมดเซลฟี่ทั่วไปแล้ว ยังเพิ่มโหมดโฟกัสสำหรับเซลฟี่เข้ามาด้วย ช่วยให้การถ่ายเซลฟี่แล้วพื้นหลังเบลอๆ ได้ดีเยี่ยม
จุดเด่นบนกล้องถ่ายรูป Samsung Galaxy S9+
รูรับแสงกว้าง f/1.5
เรียกว่าเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้สำหรับกล้องบนสมาร์ทโฟนที่มีรูรับแสงกว้างที่สุด f/1.5 และมาคู่กับ f/2.4 สามารถปรับได้อัตโนมัติ หากถ่ายรูปในที่ที่มีแสงน้อย กล้องจะปรับไปใช้รูรับแสง f/1.5 แต่หากสภาพแสงปกติกล้องจะใช้ค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.4 นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชั่นช่วยลดนอยซ์ลงถึง 30% โดยการถ่ายภาพในที่แสงน้อยจำนวน 12 ภาพแล้วรวมเป็น 1 ภาพที่ดีที่สุด ทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัดยิ่งขึ้น
AR Emoji
ลูกเล่นบนกล้องถ่ายรูปที่ให้คุณสามารถสร้างอวตาของตัวเองในรูปแบบ Emoji สามารถใส่เสียง เพิ่มข้อความ สร้างเป็นไฟล์ Gif แสดงอารมณ์ความรู้สึกส่งให้เพื่อนๆ ทางโซเชียลต่างๆ ได้อีกด้วย
การสร้าง AR Emoji เริ่มต้นจากเลือกโหมดกล้องเป็น AR Emoji > สร้าง > แล้วถ่ายรูปจากกล้องหน้า หรือกล้องหลังก็ได้ จากนั้นเลือกเพศ >ระบบก็จะสร้างอวตาของคุณ โดยที่สามารถปรับสีผิว สีผม เปลี่ยนทรงผม ใส่แว่น หรือเลือกเปลี่ยนชุดได้ตามที่ต้องการ จากนั้นเราสามารถนำเอา AR Emoji มาใส่คำพูด ทำหน้าตาท่าทางแล้วอัดเป็นวิดีโอไว้ใช้ได้อีก ซึ่งนอกจากนี้ยังมีเป็นภาพนิ่งที่ระบบสร้างไว้ให้ด้วยท่างทางต่างๆ เป็นไฟล์ Gif เริ่มต้น 18 รูปไว้ส่งให้กับเพื่อนๆ ได้เช่นกัน
Super Slow Motion
อีกลูกเล่นที่น่าสนใจบนการถ่ายภาพวิดีโอเคลื่อนไหวแบบ Super Slow Motion ที่ความเร็ว 960 fps ความละเอียด HD ยังสามารถเลือกช่วงเวลาให้ภาพช้าได้ช่วงเดียว หรือหลายช่วง ทั้งยัง เพิ่มความหลากหลายให้วิดีโอ แถมใส่เพลงให้กับวิดีโอได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ความละเอียดของวิดีโอยังไม่ค่อยชัดเท่าใด ถ้าเป็นความคมชัดระดับ Full HD น่าจะดีกว่านี้
Live Focus
โหมดนี้จะมีเฉพาะในกล้องคู่อย่าง Samsung Galaxy S9+ เท่านั้น โดยเป็นการถ่ายหน้าชัด-หลังละลาย สามารถปรับได้ถึง 7 ระดับ นอกจากนี้ เมื่อถ่ายภาพแล้วยังนำมาปรับความละลายภายหลังได้ และที่พิเศษคือเพิ่มโบเก้ หรือที่จะเห็นเป็นไฟดวงๆ ให้สามารถปรับเป็นรูปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปหัวใจ, ดาว หรืออื่นๆ ได้เช่นกัน
โหมดอาหาร
โหมดถ่ายรูปอาหาร ถูกนำมาไว้ที่ฟังก์ชั่นบนกล้องถ่ายรูปหน้าแรก สามารถเลือกใช้งานง่ายขึ้น เน้นการถ่ายอาหารให้มีภาพสีสันสดใสน่ารับประทาน โดยจะเลือกโฟกัสที่ตรงกลางและทำขอบเบลอ หรือจะไม่ทำขอบเบลอก็ได้
กล้องแปลภาษา
Samsung Galaxy S9+ สามารถใช้งานแปลภาษาได้จากกล้องถ่ายรูปที่ทำงานร่วมกับ Bixby เบื้องต้นแปลจากภาษาต้นทางได้ 54 ภาษา แปลได้ 104 ภาษา และยังสามารถค้นหาสถานที่ได้จากกล้องถ่ายรูปด้วยเช่นกัน
การใช้งานเพียงเปิดกล้องถ่ายรูป จากนั้นจ่อไปที่ภาษาที่เราต้องการแปล แล้วกดที่รูป Bixby ลักษณะคล้ายๆ ดวงตาอยู่บริเวณด้านซ้าย Bixby ก็จะทำการแปลภาษาให้ทันที หรือหากต้องการค้นหาสถานที่ก็เลือกไปที่สถานที่ เป็นต้น
กล้องถ่ายรูปด้านหน้า
กล้องถ่ายรูปด้านหน้ารองรับการใช้งานเซลฟี่ สามารถปรับแต่งหน้าสวย สีผิวได้ นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มโหมดโฟกัสสำหรับเซลฟี่มาด้วย ซึ่งจะช่วยให้การถ่ายเซลแบบหน้าชัดหลังละลายได้ดีขึ้น
คุณสมบัติการถ่ายภาพนิ่ง
คุณสมบัติการบันทึกวิดีโอ
ขอขอบคุณ : บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด โทร. 0 2689 3232
ข้อมูลผู้ใช้ร่วมแสดงความเห็นกับ : Samsung Galaxy S9+https://community.siamphone.com/viewtopic.php?t=456541
แคตตาล็อกตัวเครื่อง : //www.siamphone.com/spec/samsung/galaxy_s9+.htm
วันที่ : 19 มีนาคม 2561
ENNXO แนะนำ 5 เครื่องรางเสริมฮวงจุ้ย ด้านโชคลาภ เงินทองและค้าขาย11 ชั่วโมงที่แล้ว
Redmi Note 13 Pro 5G วางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ13 ชั่วโมงที่แล้ว
รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G ในย่านนี้พี่ขอ กับสเปคสุดเตะตา รวดเร็วจอลื่นได้กล้องระดับ 200MP มี OIS14 ชั่วโมงที่แล้ว
Nio ET7 วิ่งได้ 1,044 กม. ด้วยแบตเตอรี่ Semi-Solid State ทดสอบโดย CEO เอง!14 ชั่วโมงที่แล้ว
สรุปจุดเด่นและสเปค Infinix NOTE 40 Pro+ 5G ชาร์จเร็วโคตร 100 วัตต์ ลำโพงคู่ JBL หน้าจอ 120Hz อุปกรณ์ในกล่องแถมครบ!18 ชั่วโมงที่แล้ว
Samsung Galaxy C55 หน้าจอ Super AMOLED+ ขุมพลัง Snapdragon 7 Gen 1
Samsung ครองแชมป์จำหน่ายสมาร์ทโฟนมากสุดไตรมาสแรก 2024 ขณะที่ iPhone ยอดขายลดฮวบ ทำไม ?
Samsung LPDDR5X RAM แรงทุบสถิติโลก 10.7Gbps เน้นใช้งานร่วมกับ AI เต็มรูปแบบ
โลกที่มันมี Samsung Galaxy AI ทำไมชีวิตมันสนุกขึ้นเยอะ อะไรๆ ก็ดูง่ายไปหมด มีเป็นเจ้าของแล้วหรือย...
Samsung Galaxy M55 5G ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 1 ชาร์จเร็วขึ้นระดับ 45W
สรุปจุดเด่นและสเปค Samsung Galaxy M55 5G ชิปเซ็ตแรงขึ้น เล่นเกมเพลิน หน้าจออัปเกรด ชาร์จเร็ว 45 ว...
Sony เปิดตัวซีรีส์ ULT POWER SOUND เสียงเบสกระหึ่ม เต็มอารมณ์
สรุปจุดเด่นและสเปค realme 12x 5G มือถือราคาครึ่งหมื่นก็ใช้งานเน็ต 5G ได้แล้ว อย่างคุ้ม!
realme Narzo 70x 5G และ realme Narzo 70 5G หน้าจอ 120Hz แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W
realme 12 5G และ realme 12X 5G กล้องซูม 3 เท่าไม่สูญเสียรายละเอียด รองรับ 5G เริ่มต้น 5,xxx
Nothing Ear และ Nothing Ear (a) ประกาศวันเปิดตัว มีการรีเซ็ตชื่อ และมาด้วยกัน 2 รุ่น